ประกอบด้วย 2 กลยุทธ์ คือ (7.1) เสริมสร้างฐานะการเงินที่มั่นคงและบริหารจัดการการเงินอย่างมีความรับผิดชอบด้วยการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ ต้นทุนทางการเงิน และความเสี่ยงตามมาตรฐาน สากล เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและสมดุล และ (7.2) พัฒนาธนาคารเพื่อความยั่งยืน ด้วยกรอบนโยบายการดำเนินงานและการกำกับดูแลกิจการที่สอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่ดีเป็นมิตร/ประโยชน์ต่อชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีแผนปฏิบัติการ 6 แผนงาน ได้แก่ (7.1-1) ศึกษาวิเคราะห์แนวทางและความเป็นไปได้ของการออกตราสารหนี้ด้อยสิทธิ (Subordinated Bond) เพื่อหาแหล่งเงินทุนใหม่ (7.1-2) พัฒนากระบวนการติดตามการบริหารจัดการอัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้สุทธิจากการดำเนินงาน (Cost to Income Ratio) (7.1-3) พัฒนาแนวทางป้องกันและแก้ไขสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) (7.1-4) ศึกษาการแก้พระราชบัญญัติ ธสน. เพื่อขยายธุรกิจสินเชื่อและบริการรับประกัน (7.2-1) พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับนโยบายการเงินอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Finance) และ (7.2-2) บริหารจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการการเงินที่คำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม
การลงทุนที่สำคัญ
ธสน. มีการลงทุนที่สำคัญเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการปรับเปลี่ยนองค์กร (Transformation) และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานเชิงรุก ด้วยการขับเคลื่อนสู่ธนาคารดิจิทัล (Digital Banking) โดยมีโครงสร้างพื้นฐานระบบเทคโนโลยีดิจิทัลที่พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลง และทำให้ ธสน. สามารถประยุกต์ใช้นวัตกรรมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และมีช่องทางใหม่ ๆ ในการให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มศักยภาพ อันเป็นการสนับสนุนการค้าการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย ได้แก่
- โครงการพัฒนาระบบ Core Banking เพื่อให้ธนาคารมีระบบงานหลักเพื่อรองรับการปฏิบัติงานด้านสินเชื่อ ด้านเงินฝาก และด้านการค้าระหว่างประเทศที่ทันสมัย สามารถรองรับการพัฒนาระบบให้สอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจในปัจจุบันและอนาคตได้ รวมถึงเพื่อให้กระบวนการปฏิบัติงานมีความคล่องตัว ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมรองรับความต้องการและความคาดหวังของผู้ประกอบการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกรูปแบบ
- โครงการพัฒนาระบบ IOS และระบบ Core Insurance เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนและระยะเวลาการทำงานด้านรับประกัน ทั้งการอนุมัติวงเงินประกันและการกำหนดรอบทบทวนวงเงินผู้ซื้อ โดยจะช่วยให้สามารถวิเคราะห์และให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงจากการไม่สามารถทบทวนวงเงินได้ทันตามกำหนด โดยการพัฒนาระบบงานจะช่วยให้สามารถรองรับการขยายปริมาณธุรกิจบริการประกันที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต