
ใครจะคิดว่าของฝากเล็ก ๆ ที่ทำด้วยใจจะกลายเป็นธุรกิจขนมขบเคี้ยวที่กำลังเตรียมโกอินเตอร์ เรื่องราวนี้เริ่มต้นจากความตั้งใจของ
คุณกิตติศักดิ์ กิตติพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์เกอรี่ จำกัด และภรรยา ที่เพียงอยากทำของฝากปีใหม่ให้คนรอบข้าง แต่สามารถต่อยอดเป็นธุรกิจ Popcorn ไทยอร่อย
ภายใต้แบรนด์ “Merkery Popcorn”
จุดเริ่มต้นของความอร่อยไม่รู้จบ
“ภรรยาผมเป็นคนชอบทำอาหารและขนม วันหนึ่งเธอบอกว่าอยากเรียนทำ Popcorn โฮมเมดไว้เป็นของฝากให้ญาติ ๆ และเพื่อน ๆ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ จากนั้นก็เริ่มทำขนมส่งมอบให้ตามความตั้งใจ ทุกครอบครัวที่เราเอา Popcorn ไปฝาก ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยมาก จนมีเสียงเรียกร้องให้ทำเพิ่ม รวมถึงขอซื้อเพื่อนำไปฝากคนอื่น ๆ ต่ออีกเป็นทอด ๆ จนมีคำสั่งสั่งซื้อเข้ามาเยอะมาก ๆ” คุณกิตติศักดิ์ เริ่มต้นเล่าด้วยรอยยิ้ม
คำชมแบบปากต่อปากทำให้ทั้งคุณกิตติศักดิ์และภรรยาเริ่มตระหนักว่า จากสิ่งที่ตั้งใจทำแค่เพื่อ
“ให้” อาจเป็น
“โอกาส” ทางธุรกิจขึ้นมาจริง ๆ หลังจากรายได้จากการขายป๊อปคอร์นเติบโตอย่างก้าวกระโดดจนแซงหน้าธุรกิจอาหารเสริมจากสมุนไพรที่ครอบครัวทำอยู่เดิม ทั้งสองจึงตัดสินใจสร้างโรงงานผลิตป๊อปคอร์นภายใต้แบรนด์ Merkery Popcorn ของตัวเองที่จังหวัดปทุมธานี
คุณกิตติศักดิ์ เชื่อว่า เคล็ดลับความสำเร็จของ Merkery Popcorn ไม่ได้อยู่ที่สูตรลับ แต่เป็น “ความตั้งใจจริง” ที่อยากส่งต่อความอร่อยเพื่อให้ผู้รับประทับใจ ทุกขั้นตอนจึงต้องใส่ใจพิถีพิถัน ตั้งแต่คัดเมล็ดข้าวโพด เลือกเฉพาะเมล็ดที่มีขนาดใหญ่และสวย ถั่วอัลมอนด์และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ต้องคุณภาพพรีเมียม ไปจนถึงการปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทยแต่ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สโลแกนของเราคือ
“ส่งต่อความอร่อยไม่รู้จบ” เพราะอยากให้ทุกกล่องของ Merkery Popcorn เป็นเหมือนการส่งต่อความสุขเล็ก ๆ จากเราไปถึงคนกิน แม้ราคาของเราจะสูงกว่า Popcorn ทั่วไปเล็กน้อย แต่กลับได้รับคำชมว่า “ไม่แพง” เพราะคุณค่าที่ผู้บริโภคสัมผัสได้นั้นเกินราคา
หลังจากนั้น ก็ได้มีการคิดค้นรสชาติใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ปัจจุบัน Merkery Popcorn มีสินค้า 6 ผลิตภัณฑ์ คือ ป๊อปคอร์นรสคาราเมล ป๊อปคอร์นรสคาราเมลรวมถั่วแมคคาเดเมีย อัลมอนด์ และมะม่วงหิมพานต์ ป๊อปคอร์นรสช็อกโกแลต ป๊อปคอร์นรสเชดด้าชีส คอร์นเฟลกคาราเมล และขนมปังกรอบรสเนยนม/ช็อกโกแลต
คุณกิตติศักดิ์ กล่าวว่า อีกหนึ่งกุญแจสำคัญของความสำเร็จคือ การใช้โซเชียลมีเดียอย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม TikTok ที่ทีมงานประสบความสำเร็จในการทำคอนเทนต์ให้มีผู้มาติดตาม พร้อมเปิดตะกร้าสั่งซื้อได้ทันที ทำให้ยอดขายพุ่งอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ก็ให้ความสำคัญกับช่องทางการขายออฟไลน์ เช่น ร้านสะดวกซื้อ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นควบคู่ไปด้วย
Popcorn ไทยตีตลาดโลก
คุณกิตติศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทยังคงพัฒนารสชาติ บรรจุภัณฑ์ มาตรฐานการผลิต และมาตรฐานฮาลาล รวมถึงการขอใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหารทุกมาตรฐานที่จำเป็นต่อการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ เพราะบริษัทมีเป้าหมายส่งออก โดยได้เริ่มต้นก้าวแรกด้วยการส่งออกไปยังตลาดฮ่องกงและได้รับผลตอบรับดีเกินคาด ทำให้มีแผนจะขยายตลาดไปยังตลาดเวียดนาม ซาอุดีอาระเบีย และดูไบในอนาคต
“แม้ตลาดในประเทศยังมีช่องว่างให้เราเติบโตได้อยู่ แต่ตลาดต่างประเทศนั้นมีขนาดใหญ่และมีศักยภาพมหาศาล ประกอบกับเรามั่นใจว่าสินค้าของเรามีคุณภาพดีไม่แพ้ชาติใดในโลก ทำให้เรามองไกลไปถึงบุกตลาดต่างประเทศโดยตั้งเป้าอยากให้ยอดขายกว่า 80% มาจากการส่งออกในอนาคต” คุณกิตติศักดิ์ กล่าว
การสนับสนุนจาก EXIM BANK
คุณกิตติศักดิ์ เปิดเผยว่า เส้นทางสู่ความสำเร็จของ Merkery Popcorn ไม่ได้เกิดขึ้นโดยลำพัง แต่บริษัทได้รับการสนับสนุนจาก EXIM BANK ตั้งแต่ให้โอกาสเข้าร่วมอบรมในโครงการ EXIM 2X ซึ่งเป็นหลักสูตรเร่งรัดบ่มเพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้ก้าวสู่การเป็น “ผู้ส่งออกรายใหม่” ในโครงการ ผู้ประกอบการจะได้รับทั้งความรู้ด้านการเงิน การบริหารความเสี่ยง การจับคู่ธุรกิจกับผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ และได้สร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจริง
“EXIM BANK ไม่ใช่แค่สถาบันการเงิน แต่เป็นเหมือนพันธมิตรที่พร้อมอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการไทยตลอดเส้นทาง ผมประทับใจ EXIM BANK มาก ๆ เพราะไม่มีที่ไหนจัดกิจกรรมและให้โอกาส SMEs ได้เท่านี้” คุณกิตติศักดิ์ กล่าว
ฝากถึงผู้ประกอบการ SMEs
“อยากแนะนำให้ผู้ประกอบการที่สนใจเริ่มต้นส่งออกลองมาพูดคุยกับ EXIM BANK ดูก่อนครับ ไม่ต้องเริ่มจากการใช้สินเชื่อ ลองเข้ามาร่วมอบรมหรือสัมมนาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แล้วจะได้รับความรู้และแรงบันดาลใจกลับไปมากมาย EXIM BANK มีกิจกรรมดี ๆ เยอะมากตลอดทั้งปี ทั้งอบรม สัมมนา และกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้เจรจากับผู้ซื้อจริงจากทั่วโลก ตอบโจทย์มากสำหรับคนอยากโกอินเตอร์” คุณกิตติศักดิ์ กล่าว