EXIM E-NEWS ฉบับนี้ได้รับเกียรติจากคุณธเนศ พรพิพัฒน์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมเม็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล
จำกัด
ผู้ผลิตและส่งออกโมเสกแก้วที่ได้รับรางวัลความเป็นเลิศในระดับสากล ทั้งยังเป็นรายแรกในไทยที่นำโมเสกแก้วมาออกแบบ
ตกแต่งที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิดการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อยู่อาศัยหรือ “Inspired the Living” มาบอกเล่าประสบการณ์และ
แนวทางบริหารธุรกิจโดยใช้นวัตกรรม

          จุดเริ่มต้นของธุรกิจ
          ในอดีตผมเคยทำงานกับบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องเซรามิกรายใหญ่ของไทย ต่อมาได้ลาออกจากงานเพื่อทุ่มเทเวลา
ศึกษาปริญญาโท เมื่อสำเร็จการศึกษาปริญญาโทแล้ว มีลูกค้าที่เคยติดต่อธุรกิจกันชวนทำธุรกิจร่วมกัน เป็นการจุดประกายให้ผม
ประกอบธุรกิจส่วนตัวและกลับมาทำงานในวงการเดิมที่คุ้นเคย โดยจัดตั้งบริษัท อิมเม็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในปี 2537 สินค้า
ชิ้นแรกที่ผลิต คือ กระจกช่องแสง ซึ่งเราเป็นผู้ผลิตรายแรกของไทย โดยได้แรงบันดาลใจมาจากการไปดูงานที่ออสเตรเลีย ขณะที่
ที่อยู่อาศัยของคนไทยในสมัยนั้นจะคุ้นเคยกับการใช้อิฐแก้วเพื่อเพิ่มช่องแสงในการตกแต่งบ้านมากกว่า สินค้าชิ้นแรกของบริษัทขายได้
แต่ยอดขายไม่สูงนัก ทำให้ผมหันมาโฟกัสสินค้าที่มีความถนัดและประสบการณ์ในการผลิต คือ กระเบื้องเซรามิกซึ่งเป็นที่ต้องการ
ในตลาดตกแต่งบ้านมากกว่า โดยเอากระเบื้องเซรามิกนำมาเพิ่มมูลค่าผลิตเป็นคิ้วเซรามิก (Ceramic Border)ให้มีลวดลายและ
รูปแบบที่แตกต่างจากท้องตลาดทั่วไป และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น ซึ่งเป็นที่มาของการพัฒนาในระยะต่อมาเป็น
คิ้วแก้ว (Glass Border)
และโมเสกแก้ว (Glass Mosaic) โดยเป็นผู้ผลิตรายแรกของไทย รวมทั้งเป็นผู้ผลิตกระเบื้องแก้วชั้นนำ
ที่พร้อมจะขยายตลาดไปต่างประเทศ เริ่มต้นจากออสเตรเลีย จนปัจจุบันเราส่งออกไปแล้วจำนวนกว่า 50 ประเทศทั่วโลก

          จุดเด่นของธุรกิจ
          Key to Success ของอิมเม็กซ์ คือ คิดก่อนได้เปรียบ ดีไซน์ต้องโดน คุณภาพต้องได้ราคาต้องใช่
            ประการแรก คือ ทุกคนในองค์กรต้องมี Innovation DNA หรือความเป็นผู้สร้างนวัตกรรม เพราะ
ถ้าเราคิดก่อน ทำก่อน นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ก่อนคู่แข่ง จะทำให้เราได้เปรียบและธุรกิจค่อยๆ เติบโตขึ้น
อย่างต่อเนื่อง ขยายตลาดจากการจำหน่ายภายในประเทศเป็นการส่งออกไปทั่วโลก ทำให้สินค้าของเรา
เป็นที่รู้จักมากขึ้น จนได้รับรางวัลทั้งในและต่างประเทศ เราจึงพยายามปลูกฝังให้ทุกคนในองค์กรมี Innovation DNA ผลลัพธ์ที่จับต้องได้ คือ สินค้านวัตกรรม ขณะที่ผลลัพธ์ที่จับต้องไม่ได้ คือ การปรับปรุง
กระบวนการทำงานให้ดีขึ้น ผลิตและส่งมอบสินค้าได้เร็วขึ้น คุ้มค่าขึ้น แข่งขันได้ในโลกการค้ายุคใหม่
          ประการต่อมา คือ เราต้องพัฒนาสินค้าให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละเพศ วัย รสนิยม และภูมิประเทศที่
  แตกต่างกันมาก นั่นหมายถึงสินค้ามีให้เลือกหลากหลายสีสัน สไตล์ และลวดลายต่างๆ โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้าในราคา
ที่จับต้องได้ ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำเพราะเชื่อมั่นในคุณภาพ นอกจากคุณภาพสินค้า ยังหมายรวมถึงการบริการและกระบวนการทำงาน
ที่มีคุณภาพด้วยสุดท้ายสิ่งสำคัญที่ลูกค้าทุกรายจะต้องถามคือ ราคาสินค้า เราจึงมีจุดยืนที่จะจำหน่ายสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่ลูกค้า
ยอมรับได้ เรียกได้ว่าสินค้าของอิมเม็กซ์ได้มาตรฐานโลกในราคาเอเชีย (World Class Standard but Asian Price)

          ความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ
          ในวันนี้เราจำหน่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยตั้งเป้าหมายว่าในปี 2563 อิมเม็กซ์จะต้องติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก
ในอุตสาหกรรมโมเสก ความท้าทาย คือ การทำให้ธุรกิจแข่งขันได้ในรูปแบบการค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีทั้งการรวมกลุ่ม
การกีดกัน และการจับมือกัน รวมทั้งการปรับตัวรับมือกับกฎระเบียบ อัตราแลกเปลี่ยน หรือนโยบายการค้าของประเทศต่างๆ ซึ่งเรา
ไม่สามารถควบคุมได้ แต่ต้องหาวิธีทำอย่างไรให้ขายสินค้าได้ หรือหาตลาดใหม่ทดแทนตลาดเดิม การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ถือเป็น
ความท้าทายที่เราต้องคว้าเป็นโอกาสให้ได้ ขณะเดียวกันก็ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับอุปสรรคที่เราไม่สามารถควบคุมได้
          ทั้งนี้ เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เราขายสินค้าได้มากขึ้น ลดการพึ่งพาการออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ ซึ่งมีค่าใช้จ่าย
ในการเข้าร่วมงานต่อครั้งสูงมาก โดยปัจจุบันเราสามารถติดต่อกับลูกค้าได้ทางออนไลน์และนัดหมายติดต่อธุรกิจได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

          การบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ
          ในการค้าขายในประเทศ เราอาจจะสามารถตรวจสอบสถานะของบริษัทลูกค้าได้ไม่ยาก การสอบถามพูดคุยกับเพื่อนฝูงในวงการ
ก็ทำให้ได้ข้อมูล แต่สำหรับผู้ซื้อในต่างประเทศ เราแทบจะไม่สามารถตรวจสอบสถานะทางการเงินของผู้ซื้อได้เลย บริษัทจึงใช้บริการ
ของ EXIM BANK เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงเพื่อสร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจ
          EXIM BANK ช่วยสนับสนุนบริษัทของเราทั้งในด้านเงินทุนหมุนเวียนและป้องกันความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินจากผู้ซื้อ
ในต่างประเทศ ทำให้เรามีเงินทุนผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อ และมีกรมธรรม์บริการประกันการส่งออกที่ช่วยให้เราค้าขายระหว่างประเทศ
ได้อย่างไม่ต้องกังวล
          บริการทางการเงินของ EXIM BANK เป็นประโยชน์มากกับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs หรือผู้ส่งออกที่ต้องการเงินทุน
ในการเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจ ผมขอแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศที่ผู้ส่งออกทุกรายไม่ควรมองข้าม
กล่าวคือ ผมติดต่อค้าขายกับผู้ซื้อในต่างประเทศรายหนึ่งมาระยะหนึ่งและมียอดค้าขายกันสูงมาก วันหนึ่งผู้ซื้อรายนั้นประกาศเข้าสู่
ภาวะฟื้นฟูโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ ทำให้ไม่สามารถชำระค่าสินค้าให้กับเราได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด เพราะลูกค้า
เพิ่งฉลองครบ 130 ปีของบริษัท จากการสอบถามบริษัทอื่นๆ ที่ทำธุรกิจกับลูกค้ารายนี้ก็ได้รับการยืนยันว่าสถานการณ์ของบริษัทยังเป็น
ปกติ แต่โชคดีที่เราทำประกันการส่งออกกับ EXIM BANK ทำให้เราได้รับค่าสินไหมทดแทน เราจึงหมดความกังวลและผ่านเหตุการณ์
ครั้งนั้นมาได้

          ฝากถึงผู้ประกอบการและผู้สนใจเริ่มต้นธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ
          การทำธุรกิจต้องมีทุน ทาง และทีม กล่าวคือ เงินทุนต้องมี ลู่ทางต้องเห็น และทีมงานต้องพร้อม 3 ปัจจัยนี้สัมพันธ์กัน โดยมี
แผนธุรกิจที่ชัดเจนและแผนสำรองที่จะทำให้ธุรกิจเดินต่อไปอย่างไม่สะดุด และควรกำหนดสัดส่วนของการค้าขายภายในประเทศและ
ต่างประเทศให้สมดุลย์กัน พร้อมรับมือกับสถานการณ์การค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ประการสุดท้าย แต่สำคัญ คือ ต้องมีผู้ช่วยที่ดี
ทั้งจากภาครัฐและเอกชน อย่างเช่น EXIM BANK ที่มีบริการทางการเงิน รวมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำ และกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ สนับสนุน
ให้ธุรกิจค้าขายระหว่างประเทศของเราเติบโตได้อย่างมั่นคง
  หน้าหลัก   I   Share โลกเศรษฐกิจ   I   เปิดประตูสู่ตลาดใหม่   I   รู้ทันเกมการค้า
เกร็ดการเงินระหว่างประเทศ   I   CEO Talk   I   แวดวงคู่ค้า   I   แนะนำบริการ   I   สรุปข่าว