ในปี 2565 เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าจะขยายตัวถึง 4.9% ขณะที่การค้าโลกมีแนวโน้มขยายตัว 6.7% สูงกว่าอัตราเฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ขณะที่เศรษฐกิจไทยในปีหน้ามีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นเป็นลำดับ เช่นเดียวกับการส่งออกไทยคาดว่าจะขยายตัวราว 5% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการลงทุนของภาคเอกชนขยายตัว 4% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย

          แรงหนุนสำคัญมาจากความคืบหน้าของการกระจายและฉีดวัคซีนทั่วโลก สินค้าไทยยังตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้ดี โดยเฉพาะสินค้าอาหารและผลไม้ สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการ Work from Home ของใช้ในบ้าน และสินค้าทางการแพทย์ ประกอบกับความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ทำให้ประเทศไทยจะรวมเข้าอยู่ในตลาดขนาดใหญ่ที่มีกำลังซื้อกว่า 30% ของโลกหรือราว 2,200 ล้านคน ครอบคลุมอาเซียน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ รวม 15 ประเทศ ทำให้สินค้าไทยราว 30,000 รายการ อาทิ ผลไม้ ยานยนต์ และเคมีภัณฑ์ ได้รับลดภาษีเหลือ 0% จึงเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสเจาะตลาดให้แก่ผู้ส่งออกไทยได้มากขึ้น

          เหล่านี้เป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจส่งออก ท่ามกลางการระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 ที่เราอาจจะเริ่มปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ได้มากขึ้น แต่ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนอีกมาก EXIM BANK ขอเป็นกำลังใจและพร้อมสนับสนุนทั้งทางการเงินและไม่ใช่การเงิน เพื่อเยียวยาภาคธุรกิจที่อาจจะมีบาดแผลเก่าจาก COVID-19 ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ช่วยให้ทุกภาคส่วนมีความพร้อมที่จะปรับตัวตามเทรนด์โลกการค้ายุคใหม่ได้

          สุดท้ายนี้ ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกดลบันดาลให้ท่านและครอบครัวมีความสุข สดชื่น สมหวัง กิจการและภารกิจต่าง ๆ บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย มีความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป สวัสดีปีใหม่ครับ
 
  ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK
 
  หน้าหลัก  I  คอลัมน์พิเศษ   Share โลกเศรษฐกิจ  I  เปิดประตูสู่ตลาดใหม่  I  ส่องเทรนด์โลก
เกร็ดการเงินระหว่างประเทศ  I  
เรื่องเล่าจาก CLMV  I  CEO Talk  I แวดวงคู่ค้า  I  แนะนำบริการ  I  สรุปข่าว