HIGHLIGHTS
         • ปี 2563 New Frontiers หลายประเทศ โดยเฉพาะ CLMV มีความเคลื่อนไหวสำคัญที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและ
ส่งผลต่อการค้าการลงทุนของไทย เช่น การทบทวนสิทธิ์ EBA ของกัมพูชา การเลือกตั้งทั่วไปของเมียนมา และการเริ่มใช้ FTA ของ
EU-เวียดนาม
         • ขณะที่อีกหลายประเทศ เช่น อินเดีย เคนยา เร่งดำเนินนโยบายดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม
จึงเป็นโอกาสเข้าไปลงทุนของผู้ประกอบการไทย รวมถึงการส่งออกกลุ่มชิ้นส่วนในภาคอุตสาหกรรม เพื่อรองรับนโยบายดังกล่าว
  “เศรษฐกิจปี 2563 ของหลายประเทศ ในกลุ่ม New Frontiers ขยายตัวสดใส”  
  คาดการณ์ GDP Growth ปี 2563 ของตัวอย่างประเทศในกลุ่ม New Frontiers*  
  * ตัวอย่างประเทศที่มี GDP Growth สูงกว่า 5%
  หมายเหตุ
: ตัวเลขในวงเล็บ คือ GDP Growth ปี 2562
  ที่มา : คาดการณ์โดย IMF ณ ต.ค. 2562
  ประเด็นการค้าการลงทุนที่ควรติดตาม
ในปี 2563
ผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย  
  การส่งออก   การลงทุน  
การตัดสิทธิประโยชน์ทางภาษี
   EU ทบทวนการให้สิทธิ์ EBA* แก่กัมพูชา โดยคาดว่า
   จะประกาศผลในเดือน ก.พ. 2563
* EBA คือ สิทธิพิเศษทางการค้าสูงสุดที่ EU ยกเว้นการเก็บภาษี
   นำเข้าและยกเลิกการกำหนดโควตาสินค้านำเข้าจากประเทศ
   พัฒนาน้อยที่สุด
การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในอุตสาหกรรมสิ่งทอ
   เป็น 190 USD/เดือน จากเดิม 182 USD
   (มีผล 1 ม.ค. 2563)
 
สินค้าที่แข่งกับกัมพูชาในตลาด EU
เช่น เกษตรแปรรูป อาหาร
เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า
สินค้าอุปโภคบริโภคจากกำลังซื้อ
(ค่าจ้าง) ที่เพิ่มขึ้น เช่น อาหาร
เครื่องดื่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า
สินค้ากลุ่มวัตถุดิบที่กัมพูชานำเข้า
เพื่อผลิตและส่งออกไป EU
เช่น ผ้าผืน
โรงงานสิ่งทอของไทย
ในกัมพูชาสูญเสีย
ความได้เปรียบ
จากการส่งออกไป
EU และต้นทุน
การผลิตสูงขึ้น
ปัญหาหนี้และภาคการคลังเปราะบาง
   - หนี้ต่างประเทศ : 90% ต่อ GDP
   - ทุนสำรองต่อมูลค่านำเข้า (Import Cover) :
     1.3 เดือน
     (ข้อมูล IMF ปี 2562)
โครงการรถไฟความเร็วสูงจีน-สปป.ลาว (BRI)
   (BRI = Belt Road Initiative)
   อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2564
 
กำลังซื้อของชาวลาวอาจชะลอตัว
ในบางช่วงเวลา รวมถึงภาครัฐอาจ
เผชิญความท้าทายด้านสภาพคล่อง
สินค้าวัสดุก่อสร้างและธุรกิจรับเหมา
ก่อสร้าง รองรับความตื่นตัวของ
โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
บริเวณเส้นทางรถไฟ เช่น โรงแรม
ร้านอาหาร ศูนย์การค้า
โครงการพัฒนา
โครงสร้างพื้นฐาน
บางโครงการอาจ
ปรับขนาดให้เล็กลง
สอดคล้องกับฐานะ
การคลัง
การเลือกตั้งทั่วไป
   คาดว่าจะจัดขึ้นช่วงปลายปี (พ.ย. 2563)
การผ่อนคลายกฎระเบียบภาคการเงิน
   ธนาคารกลางเมียนมาเตรียมออกใบอนุญาตให้แก่
   ธนาคารต่างชาติเปิดสาขา/Subsidiaries ในเมียนมา
   เพิ่มเติม
 
สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรม
หาเสียง เช่น กระดาษ สิ่งพิมพ์
อาหาร เครื่องดื่ม รถยนต์
บริษัทเมียนมาที่เป็นคู่ค้ากับผู้ส่งออก
ไทยจะมีสภาพคล่องและทางเลือก
ในการระดมทุนมากขึ้น ช่วยเพิ่ม
โอกาสการส่งออกสินค้าไทย
  อาจมีการเปลี่ยนแปลง
กฎระเบียบการลงทุน
หรือที่เกี่ยวเนื่อง
รวมถึงแนวทาง
การปฏิบัติอีกครั้ง
หลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่
การย้ายฐานการผลิตมาเวียดนามของบริษัทจีน
   จากสงครามการค้า
ความตกลงการค้าเสรี EU-เวียดนาม (EVFTA)
   แม้ลงนามแล้วเมื่อปี 2562 แต่ต้องติดตามความคืบหน้า
   ในการเริ่มดำเนินการ
 
สินค้ากลุ่มวัตถุดิบเพื่อป้อนฐาน
การผลิตในเวียดนามที่ส่งไป EU เช่น
ผ้าผืน หนัง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
สินค้าที่อยู่ใน Supply Chain ของ
บริษัทจีนที่ย้ายไปเวียดนาม เช่น
ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนประกอบ
คอมพิวเตอร์
สินค้าที่แข่งกับเวียดนามในตลาด EU
อาจเผชิญการแข่งขันด้านราคา
รุนแรงขึ้น เช่น สัตวน้ำแปรรูป
รองเท้า
โอกาสเข้าไปลงทุน โดยเฉพาะ
อุตสาหกรรมที่เน้น
ส่งออกไปตลาด EU
เพื่อใช้ความได้เปรียบ
จาก EVFTA
การปรับปรุงกฎระเบียบการลงทุนจากต่างประเทศ
   เตรียมปรับ Positive Investment List ใหม่ในปี 2563
   เปิดเสรีให้ต่างชาติเข้าไปลงทุน 100% ในหลาย
   อุตสาหกรรม
การปรับโครงสร้างภาษีธุรกิจ เช่น
   - เตรียมปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 22%
      จากปัจจุบัน 25%
   - ยกเว้นการเก็บภาษีเงินปันผล (สำหรับผู้ถือหุ้นต่ำกว่า
      25%)
 
สินค้าที่เชื่อมโยงกับ Supply Chain
ไทย-อินโดนีเซีย เช่น ชิ้นส่วน
ยานยนต์ มีโอกาสส่งออกเพิ่มขึ้นจาก
การขยายตัวของโครงการลงทุนใหม่ๆ
ในอินโดนีเซีย (Investment-
induced Trade)
ลดต้นทุนการทำธุรกิจ
จากการปรับลด
ภาษีเงินได้นิติบุคคล
ที่ปัจจุบันสูงเป็น
อันดับ 2 ของอาเซียน
ความคืบหน้านโยบาย Make in India
   - ตั้งเป้าเป็น 1 ใน 3 ฐานการผลิตของโลกในปี 2563
   - ตั้งเป้าเป็น Top 50 ประเทศที่ทำธุรกิจง่ายที่สุดในปี
      2563 จากปัจจุบัน 63th (Ease of Doing Business
      Ranking)
เหตุการณ์ประท้วง
   การประท้วงต่อต้านการแก้ไขกฎหมายสัญชาติ
   (Citizenship Amendment Act)
 
สินค้ากลุ่มชิ้นส่วนในภาคอุตสาหกรรม
เพื่อรองรับนโยบาย Make in India
เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ ยางล้อ
ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ผ้าผืน
กรณีที่เหตุประท้วงรุนแรงอาจทำให้
การค้าชะงักงันหรือมีความเสี่ยงต่อ
การกระจายสินค้า (ปัจจุบัน
สถานการณ์ยังไม่รุนแรงและ
ไม่กระทบต่อการส่งออกของไทย)
โอกาสเข้าไปลงทุน
เปิดกว้างมากขึ้นจาก
นโยบาย Make in
India เช่น ยานยนต์
อาหารแปรรูป
พลังงานหมุนเวียน
ประกอบกับ
สภาพแวดล้อมทาง
ธุรกิจดีขึ้นจากการ
ปรับปรุงกฎระเบียบ
และโครงสร้างพื้นฐาน
การเดินหน้านโยบาย Big 4
   นโยบายพัฒนาเศรษฐกิจหลัก 4 ด้าน (การผลิต
   อาหาร ที่อยู่อาศัย สุขภาพ) คาดว่ารัฐบาลจะเร่ง
   ผลักดัน เนื่องจากเหลือระยะเวลาบริหารประเทศ
   อีกเพียง 2 ปี
การแก้ปัญหาการจัดการระบบโลจิสติกส์จาก
   ท่าเรือมอมบาซาสู่กรุงไนโรบี และเมืองสำคัญ

   ปี 2562 การขนส่งสินค้านำเข้าสู่กรุงไนโรบีและ
   นิคมอุตสาหกรรมสำคัญมีความล่าช้าจากการเปลี่ยน
   ระบบจัดการที่ ICD (Inland Container Depot)
 
สินค้าทุนและวัตถุดิบ เพื่อรองรับ
นโยบาย Big 4 เช่น เครื่องจักรกล
อุตสาหกรรม/เกษตร เหล็ก
เม็ดพลาสติก ชิ้นส่วนยานยนต์
(เคนยาขาดแคลนอุตสาหกรรมสนับสนุน
จึงมีความต้องการชิ้นส่วนอุตสาหกรรม
เป็นจำนวนมาก)
ปัญหาขนส่งมีแนวโน้มคลี่คลาย
ประกอบกับรถไฟสายใหม่จาก
มอมบาซา-กรุงไนโรบี-เนวาชา
(นิคมฯ สำคัญ) ช่วยเพิ่มทางเลือก
ในการขนส่งสินค้ามากขึ้น
   
  แม้กลุ่มประเทศ New Frontiers จะเต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ แต่ก็มาพร้อมความท้าทาย อาทิ เสถียรภาพเศรษฐกิจ
และการเมือง กฎระเบียบการค้าการลงทุน ระบบการเงิน เป็นต้น ผู้ประกอบการไทยควรติดตามและศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน
ก่อนวางแผนขยายธุรกิจต่อไป
  Disclaimer : ข้อมูลต่าง ๆ ที่ปรากฏ เป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น
โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด
 
  หน้าหลัก   I   Share โลกเศรษฐกิจ   I   เปิดประตูสู่ตลาดใหม่   I   รู้ทันเกมการค้า
เกร็ดการเงินระหว่างประเทศ   I   แวดวงคู่ค้า   I   แนะนำบริการ   I   สรุปข่าว