EXIM BANK จับมือ NEXI คุ้มครองความเสี่ยงให้ผู้ประกอบการไทย-ญี่ปุ่น
ขยายการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับญี่ปุ่นและประเทศเป้าหมายในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

 
            ดร.พสุ โลหารชุน ประธานกรรมการ EXIM BANK พร้อมด้วยนายโอบะ ยูอิจิ อุปทูตรักษาสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนา “EXIM Thailand and NEXI Collaboration : A New Chapter Begins” จัดโดย EXIM BANK ร่วมกับองค์กรรับประกันแห่งประเทศญี่ปุ่น (Nippon Export and Investment Insurance : NEXI) เพื่อสนับสนุนความรู้ โอกาส และเครื่องมือทางการเงินทั้งสินเชื่อและเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง โดยมีผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่นจำนวนกว่า 100 คน เข้าร่วมงาน ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่นเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ ด้านการค้าและการลงทุนในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง โดยมี ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และนางอารดา เฟื่องทอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมเป็นวิทยากร ณ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ เมื่อเร็ว ๆ นี้

          ประธานกรรมการ EXIM BANK เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะ สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม เป็นตลาดใหม่ (New Frontiers) ที่มีศักยภาพสูงด้านการค้าและการลงทุน ด้วยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะแรงงานราคาถูก ทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ จำนวนผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น การขยายตัวของชุมชนเมืองและการพัฒนาอุตสาหกรรม เสถียรภาพทางการเมือง และข้อตกลงการค้าเสรีระดับทวิภาคีและพหุภาคี ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดผู้ประกอบการจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกให้หลั่งไหลเข้าไปลงทุนเพื่อการพัฒนาประเทศ รวมถึงใช้ประเทศเหล่านี้เป็นฐานการผลิตสินค้าและดำเนินธุรกิจบริการ รองรับการอุปโภคบริโภคภายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศที่สาม อาทิ จีนและอินเดีย โดยมีผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่เข้าไปเติมเต็มและเชื่อมโยงกับ Supply Chain การค้าโลก

          ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ก้าวใหม่ความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK และ NEXI ในโลก
การค้ายุคใหม่มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความร่วมมือในการพัฒนาเครื่องมือทางการเงิน ทั้งบริการประกันการส่งออกและการลงทุน
และการรับประกันต่อ เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศให้แก่ผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่น ขยายผลสู่
การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในภูมิภาคเอเชียร่วมกัน ครอบคลุมการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
และระบบสาธารณูปโภค การพัฒนาทักษะและฝีมือแรงงาน ตลอดจนการถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีโดย
ทั้งสองหน่วยงานจะส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่นมีความพร้อมที่จะเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจระหว่างประเทศได้มากขึ้น
อย่างมั่นใจ โดยเฉพาะในตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ อาทิ ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งมีความคุ้นเคยกับวัฒนธรรมและพฤติกรรม
ผู้บริโภคในเอเชียที่คล้ายคลึงกัน EXIM BANK จะใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญของธนาคารในการส่งเสริมการส่งออกและการลงทุน
โดยการเติมความรู้ โอกาสทางธุรกิจ และเงินทุน ตลอดจนเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

          จากการคาดการณ์ขององค์กรรับประกันชั้นนำของโลก COVID-19 และสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ ทำให้ธุรกิจล้มละลายเพิ่มสูงขึ้นกว่า 14% จากปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งมีอำนาจการต่อรองต่ำและเงินทุนหมุนเวียนไม่มากนัก จึงควรต้องบริหารความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้า โดยกระจายตลาดส่งออกไปยังตลาดที่ยังเติบโตหรือมีกำลังซื้อสูง เช่น ตลาดใหม่ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เอเชียใต้ เป็นต้น และใช้เครื่องมือทางการเงินในการบริหารจัดการความเสี่ยงดังกล่าว ทั้งนี้ EXIM BANK ได้ดำเนินธุรกิจให้บริการประกันการส่งออกตั้งแต่เปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการในปี 2537 มีปริมาณธุรกิจรับประกันการส่งออกสะสมจำนวน 1.82 ล้านล้านบาท ยอดจ่ายค่าสินไหมทดแทนจำนวนรวมประมาณ 1,400 ล้านบาท โดย 76% เกิดจากกรณีผู้ซื้อในต่างประเทศปฏิเสธการชำระเงินค่าสินค้า รองลงมาประมาณ 23% เกิดจากผู้ซื้อล้มละลาย และอีก 1% เกิดจากผู้ซื้อปฏิเสธการรับมอบสินค้า ประเทศที่มีมูลค่ายื่นขอรับสินไหมทดแทนสูงสุด ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ สินค้าที่มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนสูงสุด ได้แก่ ข้าว อัญมณีและเครื่องประดับ และอะลูมิเนียม

          “ความร่วมมือกับ NEXI ในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งภารกิจของ EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังที่มุ่งดำเนินบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนา โดยขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ติดอาวุธให้ผู้ประกอบการไทยสามารถพัฒนาเป็นนักรบเศรษฐกิจในตลาดโลกได้มากขึ้น ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคเอเชีย ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม” ดร.รักษ์ กล่าว
 
  EXIM BANK หารือเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเบนินประจำประเทศไทย
แนวทางสนับสนุนการค้าการลงทุนไทย-แอฟริกา
 
            ดร.พสุ โลหารชุน ประธานกรรมการ EXIM BANK และ ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ให้การ
ต้อนรับนายซีมง ปีแยร์ อาดอเวอล็องด์ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเบนินประจำประเทศไทย ถิ่นพำนัก
ณ กรุงปักกิ่ง พร้อมทั้งหารือแนวทางความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของไทยกับสาธารณรัฐเบนิน
และตลาดแอฟริกา ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
  EXIM BANK และ NEXI พบปะหารือปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
แนวทางความร่วมมือคุ้มครองความเสี่ยงและพัฒนาภาคอุตสาหกรรม
 
            นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และกรรมการ EXIM BANK
พร้อมด้วยนางวรางคณา วงศ์ข้าหลวง รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนายอัตสึโอะ คุโรดะ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่
บริหารองค์กรรับประกันแห่งประเทศญี่ปุ่น (NEXI) พบปะหารือกับนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ถึงแนวทาง
ความร่วมมือในการสนับสนุนบริการประกันการส่งออกและบริการประกันความเสี่ยงการลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการญี่ปุ่นในไทยที่
ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไทยไปยังประเทศที่สามและลงทุนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง รวมถึงแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาภาค
อุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนท่ามกลางปัจจัยความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ณ สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
  EXIM BANK รับรางวัล Thailand Top CEO of the Year 2023 ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน  
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK รับรางวัลสุดยอดผู้บริหารองค์กร “Thailand Top CEO of the Year 2023” ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 โดยปีนี้ได้รับรางวัลประเภทรัฐวิสาหกิจ จากนายนุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี ประธานในพิธีมอบรางวัลดังกล่าว เพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติผู้บริหารสูงสุดขององค์กรชั้นนำที่มีผลงานในการขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กรเป็นที่ประจักษ์และโดดเด่น ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยมีเกณฑ์การพิจารณารางวัลจากกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ทักษะการบริหารที่เป็นเลิศ ผลการดำเนินงานขององค์กร นวัตกรรมที่นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม และสร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้าและ Stakeholders ในงาน “Thailand Top CEO of the Year 2023” จัดโดยนิตยสาร Business+ ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK ประกาศปรับอัตราดอกเบี้ย
คงจุดยืนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีต่ำที่สุดในระบบ
 
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.75% เป็น 2.00% ต่อปี อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน ขณะที่การส่งออกสินค้ามีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับแนวโน้มเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง เพื่อให้การดำเนินงานของ EXIM BANK สอดคล้องกับทิศทางของเศรษฐกิจและแนวโน้มเงินเฟ้อและสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งจะช่วยให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ EXIM BANK จึงประกาศปรับอัตราดอกเบี้ย Prime Rate 0.25% ต่อปี จาก 6.25% ต่อปี เป็น 6.50% ต่อปี ซึ่งยังคงเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบ มีผลตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป

          “EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีภารกิจขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ยังดำเนินบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาโดยไม่ทิ้งคนตัวเล็ก ดูแลช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs และกลุ่มเปราะบางด้วยมาตรการและโปรโมชันพิเศษอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้สามารถปรับตัวและรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจและแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยโอกาสใหม่ ๆ และปัจจัยท้าทายที่ต้องบริหารจัดการอย่างรู้เท่าทันด้วยเครื่องมือทางการเงินครบวงจร” ดร.รักษ์ กล่าว
 
  EXIM BANK ออกพันธบัตร SME Green Bond
ตอกย้ำบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
 
            EXIM BANK ประสบความสำเร็จในการเสนอขายพันธบัตรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อ SMEs (SME Green Bond) ครั้งแรกภายใต้กรอบการระดมทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance Framework) อายุ 3 ปี มูลค่ารวม 3,500 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้สนับสนุนสินเชื่อโครงการพลังงานสะอาดให้แก่ผู้ประกอบการกลุ่ม SMEs โดยมีธนาคารออมสินเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายพันธบัตร และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจำหน่ายพันธบัตร และนายทะเบียนพันธบัตร ซึ่งนักลงทุนชั้นนำในประเทศไทยตอบรับเป็นอย่างดีด้วยยอดการจองซื้อสูงกว่าวงเงินที่เสนอขายถึง 2.5 เท่า ทำให้ระดมทุนได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ดี ท่ามกลางตลาดการเงินที่มีความผันผวนและภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ตอกย้ำบทบาทการเป็นผู้นำด้านการเงินสีเขียว เติมเต็ม Green Financial Ecosystem ให้ครบวงจรมากขึ้น

          ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า EXIM BANK ออก SME Green Bond เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2566 โดยเสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ในรูปแบบพันธบัตรประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอน ปี 2569 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.71% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุพันธบัตร มูลค่ารวม 3,500 ล้านบาท พันธบัตร SME Green Bond ที่เสนอขายในครั้งนี้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ AAA โดยบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด สะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมั่นคงของ EXIM BANK ต่อเนื่องจากการเสนอขาย Green Bond ในปี 2565 และในปี 2566 ยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนชั้นนำในประเทศไทยด้วยยอดการจองซื้อสูงกว่าวงเงินที่เสนอขายถึง 2.5 เท่า ทำให้ EXIM BANK สามารถระดมทุนได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ และได้อัตราดอกเบี้ยที่ดีในช่วงที่ตลาดการเงินมีความผันผวนและอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น

          กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ที่ผ่านมา EXIM BANK ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) ไปแล้วประมาณ 30% ของพอร์ตสินเชื่อรวมของธนาคาร หรือประมาณ 50,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายจะขยายสินเชื่อ BCG ของธนาคารเป็น 100,000 ล้านบาทภายในปี 2570 สนับสนุนการนำพลังงานสะอาดมาใช้พัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการอุปโภคบริโภคและการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ ลดปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ การออกพันธบัตรในครั้งนี้จึงตอกย้ำความมุ่งมั่นของ EXIM BANK ในการบริหารจัดการการเงินอย่างมีความรับผิดชอบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ขยายผลความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ นำไปสู่ความร่วมมือระดับชุมชน สังคม และนานาประเทศเพื่อสร้างโลกที่สะอาดและเติบโตอย่างสมดุลในทุกมิติ

          ทั้งนี้ EXIM BANK ได้รับรางวัล Best Green Bond ประเภทสถาบันการเงินจากเวทีระดับโลก The Asset Triple A Awards 2022 จัดโดย The Asset นิตยสารการเงินชั้นนำแห่งเอเชีย และรางวัล State Owned Enterprise ESG Bond of the Year จากสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (The Thai Bond Market Association : ThaiBMA) จากการออกพันธบัตรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) จำนวน 2 รุ่น มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ในปี 2565

          “ด้วยเป้าหมายสู่การเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน EXIM BANK มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจที่สร้างผลตอบแทนให้แก่ทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน สร้างผลลัพธ์ที่เป็นเลิศให้แก่ลูกค้าผู้ประกอบการ ตลอดจนสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งต่ออนาคตที่ดีสู่คนรุ่นหลัง ธนาคารจึงพัฒนารูปแบบการดำเนินธุรกิจและผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เป็นการลงทุนในระยะยาวเพื่อความยั่งยืนของภาคธุรกิจ เสริมสร้างการพัฒนาสังคมและแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญและจุดแข็ง ตลอดจนเครือข่ายพันธมิตร ในการบริหารจัดการการเงินและดำเนินธุรกิจที่นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทยและโลกโดยรวม” ดร.รักษ์ กล่าว
 
  EXIM BANK จับมือกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และ ปปง.
ยกระดับการดำเนินงานของภาครัฐและภาคเอกชนไทยเทียบเท่าสากล
เพื่อป้องกันและปราบปรามการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
 
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวง
พาณิชย์ และกรรมการ EXIM BANK และนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
(Weapons of Mass Destruction : WMD) เพื่อใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญของแต่ละหน่วยงานร่วมมือกันอย่างมีบูรณาการ เพื่อเสริมสร้าง
ความเชื่อมั่นของนานาชาติต่อการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลเพื่อป้องกันและปราบปรามการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
ของประเทศไทย ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้

          ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากรายงานผลการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทําลายล้างสูง (Anti-Money Laundering, Combating the Financing of Terrorism and the Proliferation of Weapons of Mass Destruction : AML/CFT/WMD) ของประเทศไทยในปี 2560 ระบุว่า ประเทศไทยได้รับผลการประเมินด้านประสิทธิผลเรื่องการกำกับ ตรวจสอบ และการดำเนินมาตรการเพื่อป้องกัน WMD ในระดับต่ำ ประเทศไทยจึงมีเป้าหมายที่จะยกระดับผลการประเมินด้านดังกล่าวซึ่งจะเกิดขึ้นครั้งต่อไปในปี 2569 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า ให้อยู่ในระดับที่ดีขึ้น

          ในการนี้ EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง จะร่วมมืออย่างมี
บูรณาการกับ คต. และ ปปง. เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและให้ข้อมูลข่าวสารแก่หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของไทย
ให้กำหนดและดำเนินตามนโยบายและคู่มือการปฏิบัติงานด้าน AML/CFT/WMD อย่างเคร่งครัด โดยตระหนักถึงภัยร้ายแรงของปัญหา
ดังกล่าว มีแนวทางบริหารจัดการความเสี่ยงภายในองค์กรที่ชัดเจนและนำไปสู่การปฏิบัติจริง รวมทั้งทบทวนและปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน
และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยเฉพาะการควบคุมการนำเข้าและส่งออกสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items : DUI)
เนื่องจากปัจจุบันอาวุธยุทโธปกรณ์และกำลังพลมีปริมาณลดลงและกำลังถูกแทนที่ด้วยอาวุธทันสมัยที่ดัดแปลงมาจากสิ่งที่พลเรือน
ใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้การควบคุมอาวุธระหว่างประเทศถูกรวมเข้ากับการควบคุมการนำเข้า-ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ
นานาประเทศ รวมทั้งประเทศไทย จึงต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมและป้องกันการนำเอาวัสดุที่ไม่ใช่อาวุธโดยสภาพมาใช้เป็น
อาวุธในการก่อการร้ายมากขึ้น อาทิ การนำส่วนประกอบของปุ๋ยมาใช้เป็นวัตถุในการผลิตระเบิด การใช้แก๊สบางชนิดในการก่อ
วินาศกรรม และการนำเอาวัสดุไทเทเนียมในหัวไม้กอล์ฟมาใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตจรวดหรือขีปนาวุธ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อ
เสริมสร้างความเชื่อมั่นของนานาชาติต่อภาครัฐและภาคเอกชนของไทย ทำให้การดำเนินธุรกิจและภารกิจขององค์กรนำไปสู่การ
ส่งเสริมการค้าการลงทุน การพัฒนาภาคอุตสาหกรรม และการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทยและโลกโดยรวมอย่างแท้จริง
 
  EXIM BANK จัดงานกรรมการผู้จัดการพบพนักงาน ครั้งที่ 3 ปี 2566  
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK จัดงานกรรมการผู้จัดการพบพนักงานครั้งที่ 3 ปี 2566 เพื่อสื่อสารให้พนักงานทราบถึงผลการดำเนินงานใน ช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 และเป้าหมายตัวชี้วัดในปี 2566 ที่ท้าทายมากขึ้น รวมทั้งบอกเล่าความคืบหน้าโครงการ Transformation ที่จะดำเนินการในปี 2566-2568 เพื่อยกระดับการดำเนินงานของธนาคารในด้านต่าง ๆ รวมถึงการใส่ใจดูแลพนักงานด้วยการปรับปรุงสวัสดิการและค่าตอบแทนภายใต้โครงการที่ริเริ่มด้วยกรรมการผู้จัดการ (CEO Initiatives) และการให้ทุนการศึกษาและส่งเสริมเส้นทางการเติบโตทางอาชีพ เพื่อสร้างให้ EXIM BANK เป็น Empathic Workplace ที่สนับสนุนความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของพนักงานอย่างเหมาะสมและเท่าเทียม (Diversity and Inclusion) โดยเชิญนายพศิน อินทรวงค์ นักเขียนและคอลัมนิสต์ด้านการพัฒนาจิต ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “เปลี่ยนให้ดีขึ้น หรือปล่อยให้แย่ลง” เพื่อแบ่งปันแนวคิดในการพัฒนาตนเองให้พร้อมเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิม ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK จัดกิจกรรม Team Building กระตุ้นพนักงานและผู้บริหาร
ขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน
 
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการสัมมนาเพื่อพัฒนาการทำงานร่วมกันเป็นทีม (Team Building) ประจำปี 2566 พร้อมบรรยายสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้พนักงานตั้งแต่ระดับปฏิบัติการจนถึงผู้บริหารฝ่ายจำนวนประมาณ 90 คนที่เข้าร่วมโครงการในรุ่นที่ 1 ประจำปี 2566 ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการทำงานเป็นทีมและการพัฒนาองค์กรท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งมั่นขับเคลื่อนภารกิจของ EXIM BANK ในบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาและต่อยอดการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทย ณ โรงแรมรอยัล ฮิลส์ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดนครนายก เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK ร่วมยินดี  
  เนชั่นทีวี ครบรอบ 23 ปี  
            ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนางสาวดรัสวันต์ ชูวงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมแสดงความยินดีกับนายบากบั่น บุญเลิศ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท ฐานเศรษฐกิจ มัลติมีเดีย จำกัด นายสมชาย มีเสน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น ทีวี จำกัด และรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และนายวีระศักดิ์ พงษ์อักษร บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น และบรรณาธิการบริหารกรุงเทพธุรกิจ ในโอกาสเนชั่นทีวี ครบรอบ 23 ปี ณ อาคารอินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ครบรอบ 20 ปี  
            นายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมแสดงความยินดีกับนายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข ประธานกรรมการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) และ ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการ ไอแบงก์ พร้อมมอบเงินบริจาคสมทบทุนบัญชีซะกาตเพื่อเป็นทุนการศึกษา ทุนส่งเสริมประกอบอาชีพ ทุนดำรงชีพแก่ผู้ขัดสนและยากไร้ ตลอดจนช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยหรือภัยธรรมชาติ ในโอกาสไอแบงก์ครบรอบ 20 ปี ณ ไอแบงก์ สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK หารือธนาคารการค้าต่างประเทศลาว มหาชน
สนับสนุนผู้ประกอบการขยายการค้าและการลงทุนไทย-สปป.ลาว
 
            นางวรางคณา วงศ์ข้าหลวง รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พบปะหารือกับนายพอนเพ็ด มะนีจิด หัวหน้าแผนกคุ้มครองสินเชื่อ ธนาคารการค้าต่างประเทศลาว มหาชน (Banque Pour Le Commerce Exterieur Lao Public : BCEL) ถึงแนวทางขยายความร่วมมือทางการเงินเพื่อส่งเสริมการค้า-การลงทุนไทย-สปป.ลาว ณ BCEL สำนักงานใหญ่ เวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK ต้อนรับผู้แทนสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ
ดูงานด้านการดำเนินการตามมาตรฐานการบัญชีฉบับใหม่ (TFRS 9)
 
            นางวันเพ็ญ อรรชุนเดชะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากคณะอนุกรรมการด้านตรวจสอบภายใน สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งเข้าศึกษาดูงานเกี่ยวกับการดำเนินการตามมาตรฐานการบัญชีฉบับใหม่ (Thai Financial Reporting Standards : TFRS 9) ของ EXIM BANK ในฐานะที่ EXIM BANK เป็นสถาบันการเงินของรัฐแห่งแรกที่นำมาตรฐาน TFRS 9 มาปรับใช้ในการดำเนินงาน ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK จับมือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)
สนับสนุนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทยให้เติบโตและแข่งขันได้ในเวทีโลก
 
            นายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และ ดร.ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) (สศส.) พร้อมด้วยผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวม 15 แห่ง เข้าร่วมพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดย EXIM BANK ร่วมมือกับ สศส. สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน พร้อมทั้งนำเสนอบทบาทของ EXIM BANK ในการเติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุน เพื่อให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยเติบโตและแข่งขันได้ในเวทีโลก ณ อาคารไปรษณีย์กลาง เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK ร่วมกับมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย เสริมสร้างความเข้มแข็งผู้ประกอบการสตรีกลุ่มเปราะบาง
ให้ดำเนินธุรกิจและต่อยอดสู่การส่งออกได้
 
            นายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ดร.วิชัย ลิมปิติกรานนท์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการพัฒนาธุรกิจและเศรษฐกิจ มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย และนางประภัสสร ชูทอง ประธานชุมชนหลัง ว.ค.จันทรเกษม เขตจตุจักร ร่วมพิธีเปิดอบรมโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้ประกอบการสตรีกลุ่มเปราะบาง เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการสตรีในชุมชนรอบ EXIM BANK ประกอบด้วยพื้นที่เขตพญาไทและเขตจตุจักร ด้วยการให้ความรู้ในการประกอบธุรกิจ การตลาดในยุคดิจิทัล การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความแตกต่างและการขายสินค้าออนไลน์ เพื่อให้ผู้ประกอบการสตรีกลุ่มเปราะบางสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมทั้งสร้างโอกาสในการพัฒนาธุรกิจสู่การส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศต่อไป ณ โรงแรมมารวย การ์เด้น กรุงเทพมหานคร เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK ร่วมออกบูทในงาน Thailand Smart Money  
  Thailand Smart Money จันทบุรี  
            นายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ให้การต้อนรับนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ประธานเปิดงาน และนายรัฐกร อัสดรธีรยุทธ์ ประธานในเครือหนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจและประธานจัดงาน Thailand Smart Money จันทบุรี ครั้งที่ 1 ณ บูท EXIM BANK ซึ่งจัดขึ้นภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา จันทบุรี เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดย EXIM BANK ร่วมออกบูทเปิดคลินิก EXIM BANK เพื่อคนตัวเล็กสัญจร ให้คำปรึกษาแนะนำและบริการทางการเงิน พร้อมโปรโมชันพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจส่งออก ระหว่างวันที่ 9-11 มิ.ย. 2566  
  Thailand Smart Money ระยอง  
            นายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ให้การต้อนรับนางสาวสายฝน โชชัย คลังจังหวัดระยอง และนายรัฐกร อัสดรธีรยุทธ์ ประธานในเครือหนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจและประธานจัดงาน Thailand Smart Money ระยอง ครั้งที่ 6 ณ บูท EXIM BANK เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดย EXIM BANK ร่วมออกบูทเปิดคลินิก EXIM เพื่อคนตัวเล็กสัญจร ให้คำปรึกษาและบริการทางการเงิน พร้อมโปรโมชันพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจส่งออก และบริษัท ชาโลม เฮลท์ จำกัด ลูกค้า EXIM BANK ร่วมแสดงสินค้าส่งออกผลิตภัณฑ์จากถั่วดาวอินคาภายในงาน ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ระยอง ระหว่างวันที่ 23-25 มิ.ย. 2566  
  สินเชื่อ EXIM Green Start เสริมสภาพคล่องธุรกิจสีเขียว
ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
 
            EXIM BANK มีบริการ “สินเชื่อ EXIM Green Start” สำหรับธุรกิจที่ใส่ใจในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม วงเงินหมุนเวียนสูงสุด 200 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลากู้สูงสุด 3 ปี อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น Prime Rate -2.25% ต่อปี หรือประมาณ 4.25% ต่อปี ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของธุรกิจทั่วไป แถมฟรี! วงเงินสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Foreign Exchange Forward Contract) 1 เท่าของวงเงินสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติ เพื่อปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนให้แก่ผู้ส่งออกไทย ทั้งนี้ เพื่อเสริมสภาพคล่องธุรกิจไทย รวมถึง SMEs ให้มีความพร้อมที่จะพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าและการบริการที่ขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน เสริมสร้างเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) ตามนโยบายรัฐบาล และการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยแข่งขันได้ในเวทีการค้าระหว่างประเทศ โดยไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการทางการค้าระหว่างประเทศที่เข้มงวดเรื่องการปฏิบัติตามเกณฑ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น  
  EXIM BANK แต่งตั้งผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการเทคโนโลยีสารสนเทศ  
            EXIM BANK แต่งตั้งนายชาติอวยชัย พุทธิยิ่งยงกุล เป็นผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการเทคโนโลยีสารสนเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2566 เป็นต้นไป

          EXIM BANK แต่งตั้งนายชาติอวยชัย พุทธิยิ่งยงกุล เป็นผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการเทคโนโลยีสารสนเทศ ดูแลการบริหารจัดการงานเทคโนโลยีสารสนเทศ การเชื่อมโยงระบบภายในและภายนอก รวมทั้งการดูแลความปลอดภัยของระบบเครือข่ายให้เป็นไปตามมาตรฐานและปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2566 เป็นต้นไป

          นายชาติอวยชัยจบการศึกษาปริญญาโท วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสถิติ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เคยเป็นรองผู้อำนวยการปฏิบัติการบัตรเครดิต ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ผู้อำนวยการผลิตภัณท์บัตรเครดิตและร้านค้ารับบัตร ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ก่อนเข้าร่วมงานกับ EXIM BANK นายชาติอวยชัยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส เจ้าหน้าที่บริหาร โซลูชั่นระบบงาน สินเชื่อไม่มีหลักประกัน ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) 

 
  หน้าหลัก  l  Share โลกเศรษฐกิจ  l  Data Digest  l  ส่องเทรนด์โลก  l  CEO Talk
แนะนำบริการ  l  สรุปข่าว