 |
 |
|
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ขณะที่ SMEs อาจมีฐานทุนน้อยและได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างมาก EXIM BANK จึงเปิดคลินิกให้คำปรึกษาปัญหาด้านการเงินทางโทรศัพท์ เพื่อประคับประคองธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกและลงทุนให้มีสภาพคล่องเพียงพอและรักษาการจ้างงานต่อไปได้ รวมทั้งจัดโครงการอบรมออนไลน์เป็นกลุ่มเฉพาะให้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจในอนาคตต่อไป
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า มาตรการของ EXIM BANK เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกและลงทุนจากผลกระทบโควิด-19 ประกอบด้วย
มาตรการที่ 1 พักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 6 เดือน สำหรับลูกค้า EXIM BANK ที่มีวงเงินสินเชื่อทั้งระยะยาวและระยะสั้น
มาตรการที่ 2 ขยายเงื่อนไขบริการประกันการส่งออก โดยขยายระยะเวลาการชำระเงินที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด 270 วัน แก่ผู้ส่งออกที่มีประกันการส่งออกของ EXIM BANK และส่งออกไปประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามประกาศขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) ฟรี! คุ้มครองการส่งออกสินค้าเน่าเสียง่ายไปจีน สูงสุด 50% ของมูลค่าใบกำกับสินค้า และลดระยะเวลาพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนกรณีผู้ซื้อไม่รับมอบสินค้า
มาตรการที่ 3 สนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ
• สินเชื่อระยะยาว 7 ปี สำหรับลูกค้าและผู้ประกอบการทั่วไป วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2% ต่อปีในปีที่ 1-2 นำไปใช้หมุนเวียนในกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกและลงทุน ซึ่งได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อมจากโควิด-19
• สินเชื่อระยะสั้น 2 ปี สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท วงเงินสูงสุด 20% ของยอดหนี้คงค้าง ณ 31 ธันวาคม 2562 อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2% ต่อปี ฟรี! ดอกเบี้ย 6 เดือน นำไปใช้หมุนเวียนในกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกและลงทุน ซึ่งได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อมจากโควิด-19
• สินเชื่อระยะยาว 7 ปี สำหรับลูกค้าและผู้ประกอบการทั่วไปในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม วงเงินสูงสุด 100 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2% ต่อปีในปีที่ 1-2 นำไปใช้ซื้อหรือปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ หรือต่อเติมปรับปรุงโรงงาน
• สินเชื่อส่งเสริมการจ้างงาน วงเงินสูงสุด 15 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 3% ต่อปี ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี
มาตรการที่ 4 คลินิกให้คำปรึกษาแก่ผู้ส่งออกทางโทรศัพท์ เพื่อให้คำปรึกษาและข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อการรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน จัดแพ็กเกจและมาตรการช่วยเหลือทางการเงินที่เหมาะสมกับธุรกิจของผู้ติดต่อเข้ามา โดยเฉพาะ SMEs รวมทั้งให้คำปรึกษาด้านการเงินทางโทรศัพท์และจัดโครงการฝึกอบรมออนไลน์ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและขยายเครือข่ายธุรกิจเพิ่มมากขึ้น โทร. 0 2617 2111 ต่อ 3510-2
“EXIM BANK ขานรับนโยบายกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะยืนเคียงข้าง ให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน และแบ่งเบาภาระของลูกค้าและผู้ประกอบธุรกิจส่งออกและลงทุน โดยเฉพาะ SMEs ที่ได้รับผลกระทบของโควิด-19 โดยผ่อนปรนกำหนดการชำระหนี้และสนับสนุนเงินทุนต้นทุนต่ำเพื่อเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจอยู่รอดและรักษาการจ้างงาน
ต่อไปได้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเป็นปกติ” นายพิศิษฐ์กล่าว |
|
|
 |
|
|
EXIM BANK ขานรับนโยบายรัฐ ขยาย “สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน” เสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการเพื่อรักษาการจ้างงาน
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 |
|
|
 |
 |
 |
|
EXIM BANK สนับสนุนสำนักงานประกันสังคม ส่งเสริมการจ้างงานของสถานประกอบการในซัพพลายเชนของการส่งออกไทย โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรม โดยจัดทำโครงการ “สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน” วงเงินสูงสุด 15 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 3% ต่อปี ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ รวมถึงสภาพคล่องของสถานประกอบการ โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งอาจนำไปสู่การลดหรือเลิกจ้างแรงงาน อันจะเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนยิ่งขึ้นไปอีก EXIM BANK จึงเข้าร่วมสนับสนุน “โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน” ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องให้สถานประกอบการดำรงอยู่ได้ รวมทั้งสามารถรักษาการจ้างงาน เพื่อผลิตและจำหน่ายสินค้าได้อย่างต่อเนื่องท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจปี 2563 ส่งผลให้แรงงานในสถานประกอบการยังคงมีงานทำและอยู่ในระบบประกันสังคมได้ต่อไป
สถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนกับ สปส. สามารถขอรับบริการ “สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน” วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท มี 2 ทางเลือก คือ
1. สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน Series 1 เงินกู้ระยะเวลา 3 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 อยู่ที่ 3% ต่อปี กรณีมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
2. สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน Series 2 เงินกู้ระยะเวลา 7 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 อยู่ที่ 3% ต่อปี ปีที่ 4-7 อยู่ที่ Prime Rate -1.25% ต่อปี หรือประมาณ 4.5% ต่อปี (Prime Rate ณ 14 เมษายน 2563 เท่ากับ 5.75%)
ทั้งนี้ สามารถใช้หนังสือค้ำประกันของบรรษัทสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นหลักประกันร่วมได้ ติดต่อขอรับบริการได้ที่ EXIM BANK ตั้งแต่บัดนี้-30 ธันวาคม 2563 สอบถามโทร.
0 2617 2111 ต่อ 3510-2
“สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงานเป็นมาตรการหนึ่งของ EXIM BANK ในการเยียวยาความเดือดร้อนของภาคธุรกิจ ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง นอกเหนือจากมาตรการอื่นๆ ที่ EXIM BANK ขานรับนโยบายภาครัฐและร่วมมือกับภาคธุรกิจเพื่อช่วยเหลือให้ทุกภาคส่วนผ่านความยากลำบากในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ไปได้” นายพิศิษฐ์กล่าว |
|
|
 |
 |
|
EXIM BANK จัดทำโครงการ CSR “EXIM ร่วมใจสู้ภัยโควิด”
เยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในสังคม |
|
|
 |
|
|
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนในสังคม EXIM BANK จึงได้จัดทำโครงการ EXIM ร่วมใจสู้ภัยโควิด โดยบริหารจัดการองค์กรเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 เข้าสู่สังคม ควบคู่กับการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยจัดให้มีมาตรการสำหรับลูกค้าและผู้ประกอบธุรกิจและลงทุน คลินิกให้คำปรึกษาแนะนำทางการเงินแก่ผู้ประกอบการทั่วไป โครงการสนับสนุนธุรกิจเกษตรผ่านเครือข่ายพันธมิตร และกิจกรรมเพื่อสังคม
กิจกรรมเพื่อสังคมของ EXIM BANK เพื่อเยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมมูลค่า1,600,000 บาท ประกอบด้วย
• การยกเว้นค่าเช่าพื้นที่ให้แก่ร้านค้าและร้านอาหารที่อาคารเอ็กซิม เป็นเวลา 3 เดือน
• การจัดกิจกรรมระดมทุนผู้บริหารและพนักงานและเงินบริจาคสมทบในนามธนาคารเพื่อซื้อเครื่องมือแพทย์สำหรับรักษาและ
ช่วยชีวิตผู้ป่วยโควิด-19 ผ่านคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี จำนวน 437,500 บาท
• การจัดทำและส่งมอบหน้ากาก Face Shield 5,000 ชิ้น และน้ำดื่มบรรจุขวด 10,000 ขวดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุข และพนักงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อในสังกัดกรุงเทพมหานคร
• การสนับสนุนซื้อหน้ากาก Face Shield 2,000 ชิ้น จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อสมทบรายได้ในการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลรัฐ และส่งมอบ Face Shield ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธา
รณสุขในสถานพยาบาลต่างจังหวัด
• การสนับสนุนวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กรมแพทย์ทหารบก และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผลิตตู้ความดันลบ (Negative Pressure Cabinet) จำนวน 10 ตู้ เพื่อส่งมอบให้โรงพยาบาลชุมชนในต่างจังหวัดใช้ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ช่วยป้องกันการติดเชื้อไปยังบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยอื่นในบริเวณข้างเคียง
• การจัดทำและส่งมอบถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส จำนวน 1,400 ถุง โดยอุดหนุนสินค้าของลูกค้า ธสน. และองค์กรการกุศล ส่งมอบให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยผ่านมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นต้น
“นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 EXIM BANK มีนโยบายมุ่งเน้นการบริหารจัดการองค์กร โดยดูแลสภาพแวดล้อม
และกระบวนการทำงาน เพื่อให้ธนาคารสามารถให้บริการลูกค้าและผู้มาติดต่อใช้บริการได้อย่างต่อเนื่องด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ควบคู่กับการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับลูกค้า ผู้ใช้บริการ และผู้ประกอบธุรกิจส่งออกและลงทุน โดยสอดคล้องกับภารกิจของ EXIM BANK รวมทั้งการขยายความช่วยเหลือไปสู่ชุมชนและสังคมผ่านเครือข่ายพันธมิตรภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ทุกภาคส่วนก้าวผ่านสถานการณ์ความยากลำบากไปได้ในที่สุด” นายพิศิษฐ์กล่าว |
|
|
 |
 |
|
 |
 |
|
EXIM BANK ส่งมอบ Face Shield สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย
์และสาธารณสุขสู้ภัยโควิด-19 |
|
|
 |
 |
 |
|
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ ประธานกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคม EXIM BANK นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนายพงศ์ธีระ พัฒนพีระเดช รองประธาน กลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายกสมาคมการพิมพ์ไทย ร่วมส่งมอบหน้ากาก Face Shield 2,000 ชิ้น จัดทำโดย ส.อ.ท. เพื่อสมทบรายได้ซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลของรัฐต่อไป ให้แก่ นพ. สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดย Face Shield ดังกล่าวจะส่งมอบต่อไปยังบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสถานพยาบาลท้องถิ่นในต่างจังหวัด ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
 |
 |
 |
|
EXIM BANK สมทบทุนคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
ซื้อเครื่องมือรักษาโควิด-19 |
|
|
 |
 |
 |
|
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ ประธานกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคม EXIM BANK และนายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK มอบเงินบริจาคในนาม EXIM BANK และบริจาคสมทบจากผู้บริหารและพนักงานธนาคาร จำนวน 437,500 บาท สมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์สำหรับรักษาและช่วยชีวิตผู้ป่วยโควิด-19 ให้แก่โครงการป้องกันและช่วยเหลือสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยมีศาสตราจารย์ นายแพทย์รณชัย คงสกนธ์ รองคณบดีฝ่ายการคลังและการพัสดุ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และผู้บริหารโรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นผู้รับมอบ ณ สำนักงานคณบดี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อเร็ว ๆ นี้ |
|
|
 |
 |