ตลาดสินค้าอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในสิงคโปร์  
            กลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้ปานกลางถึงรายได้สูงถือเป็นเป้าหมายหลักของผู้ผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งผู้บริโภคใน
สิงคโปร์ถือได้ว่ามีฐานะตรงกับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว ด้วยระดับรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริง (Disposable Income) สูงถึงราว
2.4 หมื่นดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียน อาทิ มาเลเซีย (5.6 พันดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี) และ
ไทย (ราว 3.8 พันดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี) นอกจากนี้ ปัจจุบันคู่สมรสสมัยใหม่ชาวสิงคโปร์นิยมทำงานทั้งคู่ ทำให้รายได้
ของครอบครัวเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ (Double-Income) แตกต่างจากในบางประเทศที่สามีเป็นผู้ทำงานเพียงคนเดียว ขณะที่
ภรรยาทำหน้าที่ดูแลบ้านและครอบครัวเท่านั้น ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในสิงคโปร์มีผู้สนใจเข้ามา
เจาะตลาดระยะหนึ่งแล้ว แต่ด้วยศักยภาพของผู้บริโภคในสิงคโปร์ ทำให้สินค้าอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพยังเป็นตลาด
ที่น่าสนใจติดตามถึงสถานการณ์และแนวโน้มที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะข้างหน้า

          ปัจจัยผลักดันความต้องการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
          • ชาวสิงคโปร์เป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้น ทั้งจากลักษณะความเป็นอยู่แบบคนเมืองของชาวสิงคโปร์ซึ่งมีชีวิตประจำวัน
ที่เร่งรีบและใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงาน ทำให้มีเวลาสำหรับการออกกำลังกายน้อยลง รวมถึงฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น
ของคู่สมรสที่ต่างก็มีรายได้ทั้งคู่ ทำให้นิยมออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน นอกจากนี้ การที่ผู้ปกครองชาวสิงคโปร์มีเวลา
พาบุตรหลานไปทำกิจกรรมนอกบ้านค่อนข้างน้อย เนื่องจากต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงาน ปัจจัยดังกล่าวล้วนส่งผลให้
ชาวสิงคโปร์มีอัตราการเป็นโรคอ้วนสูงขึ้น ทั้งนี้ ข้อมูลสำรวจด้านสุขภาพล่าสุด (ปี 2553) ของสิงคโปร์พบว่า ราว 1 ใน 10
ของชาวสิงคโปร์เป็นโรคอ้วน แม้ว่าสัดส่วนดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น อาทิ มาเลเซียมีอัตราส่วน
ประชากรที่เป็นโรคอ้วนร้อยละ 24 อินเดียมีสัดส่วนร้อยละ 17 และกลุ่มประเทศ OECD มีสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 17 แต่รัฐบาล
สิงคโปร์ยังคงให้ความสำคัญและมีมาตรการออกมาแก้ปัญหา อาทิ การควบคุมเนื้อหาโฆษณาของอาหารและเครื่องดื่ม
ต่อกลุ่มเยาวชน ทำให้ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ของโลก เช่น Coca-Cola, Ferrero, Mars, McDonald’s, Nestle
และ Unilever ทำการตลาดอาหารและเครื่องดื่มแก่ผู้บริโภคกลุ่มเยาวชนได้เฉพาะที่ผ่านมาตรฐานด้านสุขภาพของสิงคโปร์
เท่านั้น ซึ่งผู้ผลิตสินค้าดังกล่าวก็ตอบสนองด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ลดปริมาณสารบางประเภทเพื่อประโยชน์ต่อ
สุขภาพ อาทิ น้ำตาล ไขมัน และคาร์โบโฮเดรต นอกจากนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ยังริเริ่มหลายโครงการเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการ
บริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ อาทิ โครงการ Healthy Workplace ซึ่งร้านอาหารในสถานที่ทำงานที่เข้าร่วมโครงการต้องมี
อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจำหน่าย เป็นต้น
          • การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ในปี 2556 สิงคโปร์มีสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปถึงร้อยละ 15.6 ของประชากร
ทั้งประเทศ ซึ่งการที่สัดส่วนดังกล่าวสูงกว่าร้อยละ 10 ถือได้ว่าประเทศเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เป็นที่เรียบร้อย
แล้ว และสัดส่วนดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กลุ่มประชากรสูงอายุมักให้ความสำคัญกับอาหารและเครื่องดื่ม
ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งรวมถึงอาหารและเครื่องดื่มประเภทที่มีการเพิ่มสารอื่นที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ (Fortified/
Functional Food) เช่น เครื่องดื่มผสมคอลลาเจนและวิตามินซึ่งช่วยป้องกันริ้วรอยก่อนวัย
          • ค่านิยมการมีบุตรน้อยของชาวสิงคโปร์ ทำให้พ่อแม่ชาวสิงคโปร์ใส่ใจและพิถีพิถันในการเลือกซื้อสินค้าให้ลูก
ค่อนข้างมาก รวมถึงการเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งแม้ว่ามีราคาแพง แต่ก็ได้รับความนิยม
เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก อาทิ อาหารอินทรีย์สำหรับทารก
          • การพึ่งพาอาหารสำเร็จรูป ปัจจุบันด้วยวิถีชีวิตแบบคนเมืองที่เร่งรีบและมีขนาดครอบครัวที่เล็กลง ทำให้ชาว
สิงคโปร์สมัยใหม่ต้องพึ่งพาอาหารสำเร็จรูปค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่าการบริโภคอาหารสำเร็จรูป
ปริมาณมากไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ เนื่องจากอาหารสำเร็จรูปบางชนิดผสมสารกันบูดและสารสังเคราะห์ รวมถึงมีคุณค่า
สารอาหารน้อยกว่าที่ได้จากการบริโภคอาหารปรุงสด ปัญหาดังกล่าวจึงเป็นโอกาสทางการตลาดของผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป
ในการวางตลาดอาหารสำเร็จรูปที่ใส่ใจต่อสุขภาพ อาทิ การไม่ใช้สารกันบูด การไม่ใช้สีและกลิ่นสังเคราะห์ การไม่ใส่ผงชูรส
และการลดปริมาณเกลือและน้ำตาล รวมถึงอาหารประเภท Fortified/Functional Food ที่มีการผสมสารอาหารที่มีประโยชน์
ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดีในตลาดสิงคโปร์ที่ผู้บริโภคมีความสามารถที่จะจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้สินค้าที่ดีต่อสุขภาพ

          สถานการณ์ตลาดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในสิงคโปร์
 
  ตลาดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในสิงคโปร์  
  ที่มา : Euromonitor  
  ส่วนแบ่งตลาดตามประเภทสินค้าในปี 2556  
  ที่มา : Euromonitor  
            • ประเภทของสินค้าอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
              - Fortified/Functional : อาหารและเครื่องดื่มที่มีการเพิ่มสารอื่นที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อาทิ คอลลาเจน และ
วิตามิน เป็นต้น
              - Naturally Healthy : อาหารและเครื่องดื่มที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพ อาทิ ขนมที่มีเส้นใยสูง
น้ำมันมะกอก นมถั่วเหลือง และขนมทำจากผลไม้ เป็นต้น
              - Better for You : อาหารและเครื่องดื่มที่ลดปริมาณสารบางประเภทเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ อาทิ น้ำตาล
เกลือ คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และสารกันบูด เป็นต้น
              - Food Intolerance : อาหารและเครื่องดื่มที่มีการสกัดสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ออก อาทิ กลูเตน และแลคโตส
เป็นต้น
              - Organic : อาหารและเครื่องดื่มอินทรีย์ ซึ่งปราศจากการใช้สารเคมีตลอดกระบวนการผลิต

          • สถานการณ์ตลาด
              - ตลาดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพของสิงคโปร์ในปี 2556 ยังขยายตัวดี แม้ชะลอการขยายตัวเหลือ
ร้อยละ 4.9 ลดลงจากร้อยละ 5.7 ในปี 2555 เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่เริ่มได้รับความนิยมในตลาดสิงคโปร์มาแล้วระยะหนึ่ง
จนเริ่มเกิดภาวะอิ่มตัวของตลาด และถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยบริษัทที่เป็นผู้นำตลาด คือ Malaysia
Diary Industries ตามมาด้วยบริษัทข้ามชาติซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี เช่น Nestle Yakult และ Abbott ทั้งนี้ ช่องทางกระจาย
สินค้าอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่สำคัญของสิงคโปร์ ได้แก่ ซูเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ต
              - อาหารและเครื่องดื่มประเภท Fortified/Functional ครองส่วนแบ่งตลาดถึงราวร้อยละ 60 ของตลาด
อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพทั้งหมด โดยสินค้าสำคัญเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นมสำหรับเด็กที่มีการเพิ่มวิตามิน
และสารอาหารอื่น และโยเกิร์ตเพื่อสุขภาพ เป็นต้น นอกจากนี้ เครื่องดื่ม Soft Drink ก็เป็นสินค้าสำคัญอีกกลุ่มหนึ่ง เช่น
น้ำผลไม้ที่เพิ่มวิตามิน และเครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับนักกีฬา เป็นต้น
              - อาหารและเครื่องดื่มประเภท Food Intolerance เป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ
9.6 ในช่วงปี 2552-2556 สูงสุดเมื่อเทียบกับสินค้าอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพประเภทอื่น
โดยมีสินค้าหลัก
คือ อาหารเด็กและทารก เช่น นมถั่วเหลือง และนมสกัดสารแลคโตส

          แนวโน้มตลาดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในสิงคโปร์
          ตลาดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในสิงคโปร์ในระยะข้างหน้ามีแนวโน้มขยายตัวในอัตราชะลอลง เนื่องจากเป็น
สินค้าที่เจาะตลาดสิงคโปร์มาแล้วระยะหนึ่ง จนตลาดเริ่มอิ่มตัวแล้วในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม สัดส่วนผู้สูงอายุที่มีแนวโน้ม
เพิ่มขึ้นถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยพยุงตลาดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยคาดว่าอาหารและเครื่องดื่มประเภท
Fortified/Functional ที่เพิ่มสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อกระดูก ข้อต่อ และการย่อยอาหาร จะมีความต้องการเพิ่มขึ้น ขณะที่
ตลาดอาหารและเครื่องดื่มอินทรีย์ ซึ่งปัจจุบันยังมีส่วนแบ่งตลาดค่อนข้างน้อย แต่เป็นตลาดที่ยังมีแนวโน้มขยายตัว และ
ถือเป็นกลุ่มสินค้าที่ไทยมีโอกาสสูงในการส่งออกไปสิงคโปร์
 
  Disclaimer : ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์
ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ
ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด