 |
|
โอกาสขยายการลงทุนอุตสาหกรรมผ้าผืนในเวียดนาม |
|
|
 |
|
|
|
|
ปัจจุบันเวียดนามเป็นประเทศผู้ส่งออกสิ่งทอรายใหญ่ที่สุดของอาเซียนและรายใหญ่อันดับ 5 ของโลก (รองจากจีน
อินเดีย ตุรกี และบังกลาเทศ) ด้วยมูลค่าส่งออก 17,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2556 และขยายตัวเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 15
ต่อปี ในช่วงปี 2552-2556 อันเป็นผลจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่หลั่งไหลเข้ามาใช้เวียดนามเป็นฐานการผลิต
เพื่อส่งออก จนทำให้ปัจจุบันเวียดนามเป็นฐานการผลิตสิ่งทอสำคัญของแบรนด์ชั้นนำของโลก เนื่องจากอัตราค่าจ้างแรงงาน
ในเวียดนามอยู่ในระดับต่ำราว 100-145 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน และมีแรงงานจำนวนมาก อีกทั้งยังได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี
ศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) จากประเทศพัฒนาแล้ว อาทิ สหภาพยุโรป (European Union : EU) และญี่ปุ่น เป็นต้น
นอกจากนี้ เวียดนามยังอยู่ระหว่างการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific
Strategic Economic Partnership : TPP*) ซึ่งเมื่อมีผลบังคับใช้จะช่วยเกื้อหนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมสิ่งทอมากขึ้น
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมสิ่งทอของเวียดนามที่เติบโตอย่างต่อเนื่องไม่เพียงแต่เป็นโอกาสการลงทุนของผู้ประกอบการไทยใน
อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มในเวียดนามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุตสาหกรรมสิ่งทอต้นน้ำ โดยเฉพาะการผลิตผ้าผืน ซึ่งเป็นวัตถุดิบ
สำคัญในการผลิตเครื่องนุ่งห่มที่เวียดนามยังขาดแคลนและมีแนวโน้มที่จะต้องการเพิ่มขึ้นอีกในระยะข้างหน้า
ปัจจัยสนับสนุนการลงทุนอุตสาหกรรมผ้าผืนในเวียดนาม
• โครงสร้างการผลิตสิ่งทอของเวียดนามยังต้องพึ่งพาการนำเข้าผ้าผืนจากต่างประเทศเป็นหลัก เวียดนาม
ผลิตผ้าผืนได้ไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศที่เติบโตอย่างรวดเร็วตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม
ส่งผลให้ต้องนำเข้าผ้าผืนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 เวียดนามนำเข้าผ้าผืนมูลค่า 8,397 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น
ถึงร้อยละ 19.2 จากปีก่อนและคิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 80 ของปริมาณการใช้ผ้าผืนในประเทศที่มีทั้งสิ้น 6,800 ล้าน
ตารางเมตร ทั้งนี้ ผ้าผืนเป็นวัตถุดิบหลักของอุตสาหกรรมสิ่งทอที่เวียดนามนำเข้ามากที่สุด มีสัดส่วนถึงร้อยละ 62 ของมูลค่า
นำเข้าสิ่งทอรวม ขณะที่ภายใต้แผนพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอปี 2558-2563 รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าส่งออกสิ่งทอ
เป็น 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2563 ซึ่งจะยิ่งเกื้อหนุนให้ความต้องการใช้ผ้าผืนเพิ่มขึ้นตาม
|
|
|
 |
 |
|
มูลค่านำเข้าผ้าผืนของเวียดนาม |
|
|
 |
|
ที่มา : Vietnam Textile and Apparel Association (VITAS) |
|
|
 |
 |
|
• ความตกลงทางการค้าเกื้อหนุนการลงทุนอุตสาหกรรมผ้าผืนในเวียดนาม ความตกลง TPP ซึ่งมีสหรัฐฯ เป็น
แกนนำจะมีส่วนสำคัญในการเกื้อหนุนการส่งออกเครื่องนุ่งห่มของเวียดนามไปสหรัฐฯ (ตลาดส่งออกเครื่องนุ่งห่มอันดับ 1
ของเวียดนาม มีสัดส่วนเกือบร้อยละ 50 ของมูลค่าส่งออกเครื่องนุ่งห่มรวมของเวียดนาม) เนื่องจากอัตราภาษีนำเข้า
เครื่องนุ่งห่มที่เวียดนามส่งออกไปสหรัฐฯ ทั้งหมดราว 1,000 รายการ จะลดลงเหลือร้อยละ 0 จากเดิมที่เรียกเก็บในอัตรา
ร้อยละ 17-18 การส่งออกเครื่องนุ่งห่มที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้เวียดนามมีความต้องการใช้วัตถุดิบผ้าผืนเพิ่มขึ้นตาม ทั้งนี้ ภายใต้
ความตกลง TPP คาดว่าจะมีการใช้กฎแหล่งกำเนิดสินค้าที่มีเงื่อนไขให้เครื่องนุ่งห่มที่ได้สิทธิ์ TPP ต้องใช้วัตถุดิบด้ายหรือ
ผ้าผืนที่ผลิตจากประเทศสมาชิก TPP (Yarn/Fabric Forward) ซึ่งจะเอื้อให้มีการเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมสิ่งทอต้นน้ำ
ในเวียดนามมากขึ้น นอกจากนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ปัจจุบันเวียดนามอยู่ระหว่างการเจรจาความตกลงการค้าเสรีกับ EU (ตลาด
ส่งออกเครื่องนุ่งห่มอันดับ 2 ของเวียดนาม มีสัดส่วนราวร้อยละ 15 ของมูลค่าส่งออกเครื่องนุ่งห่มรวม) ซึ่งคาดว่าจะมีผล
บังคับใช้ภายในปี 2558 และจะส่งผลให้อัตราภาษีนำเข้าเครื่องนุ่งห่มที่เวียดนามส่งออกไป EU ลดลงเหลือร้อยละ 0 จากเดิม
ที่เรียกเก็บในอัตราร้อยละ 12 ซึ่งจะเกื้อหนุนการส่งออกเครื่องนุ่งห่มไปตลาด EU และทำให้ความต้องการใช้วัตถุดิบผ้าผืน
ของเวียดนามขยายตัวตาม
|
|
|
 |
|
 |
|
คาดการณ์มูลค่าส่งออกเครื่องนุ่งห่มของเวียดนามไปสหรัฐฯ |
|
|
 |
|
 |
 |
|
• รัฐบาลเวียดนามสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมสิ่งทออย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมสำคัญที่
สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ โดยมีสัดส่วนถึงร้อยละ 10.5 ของ GDP และมีสัดส่วนราวร้อยละ 14 ของมูลค่าส่งออก
รวม อีกทั้งยังก่อให้เกิดการจ้างงานราว 2.5 ล้านคน หรือราว 1 ใน 4 ของแรงงานในภาคอุตสาหกรรมทั้งระบบของเวียดนาม
ทั้งนี้ รัฐบาลเวียดนามมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่สำคัญในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ดังนี้
- อนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติลงทุนได้สูงสุดร้อยละ 100
- ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่สำคัญ คือ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 4 ปี จากอัตราปกติที่ร้อยละ 22 (ขึ้นอยู่
กับพื้นที่ลงทุน) ยกเว้นอากรขาเข้า (Import Duty) และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในการนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักรที่ใช้
ในการผลิต
- ยกเว้นค่าเช่าที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม 3-15 ปี (ขึ้นอยู่กับพื้นที่ลงทุน)
- กำหนดพื้นที่เป้าหมายในการส่งเสริมอุตสาหกรรมสิ่งทอ จำนวน 5 แห่งทั่วประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกแก่
นักลงทุนต่างชาติ
นอกจากนี้ ภายใต้แผนพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอปี 2558-2563 รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าสนับสนุนการลงทุนใน
อุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสิ่งทอต้นน้ำมากขึ้น โดยเพิ่มสัดส่วนการใช้วัตถุดิบสิ่งทอภายในประเทศเป็น
ร้อยละ 60 ของต้นทุนวัตถุดิบสิ่งทอรวม ภายในปี 2558 และร้อยละ 70 ภายในปี 2563 จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 50 โดย
มีรายละเอียดสำคัญ อาทิ
|
|
|