 |
 |
|
เดลแมกซ์แมชินเนอรี่ : ผู้ออกแบบ ผลิต ติดตั้ง และซ่อมบำรุงเครื่องจักรในระบบบรรจุภัณฑ์
รางวัลธรรมาภิบาลด้านการปฏิบัติต่อผู้บริโภคดีเด่นแห่งปี 2559 |
|
|
 |
 |
|
 |
EXIM E-NEWS ฉบับนี้ได้รับเกียรติจากลูกค้าคุณโชติวุทฒ์ จริยากูล รองประธานกรรมการ บริษัท เดลแมกซ์แมชินเนอรี่
จำกัด มาบอกเล่าเรื่องราวของธุรกิจออกแบบ ผลิต ติดตั้ง และ
ซ่อมบำรุงเครื่องจักรในระบบบรรจุภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมน้ำดื่ม
นม ยา น้ำผลไม้ เคมีภัณฑ์ และของเหลวอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งได้รับ
รางวัลธรรมาภิบาลด้านการปฏิบัติต่อผู้บริโภคดีเด่นแห่งปี 2559 จาก
สถาบันป๋วย อึ๊งภากรณ์ ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย สถาบัน
พัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสมาคมธนาคารไทย
จุดเริ่มต้นของธุรกิจ
คุณพ่อและคุณแม่ของผมเป็นผู้เริ่มธุรกิจนี้ครับ เมื่อก่อน
คุณแม่ทำงานธนาคาร คุณพ่อเป็นพนักงานขาย จนวันหนึ่งมีโอกาส
เข้ามา คุณพ่อจึงเปิดกิจการเล็กๆ รับซ่อมเครื่องจักร และต่อมา
ได้ขยายธุรกิจเป็นการผลิตเครื่องจักรเอง และเราก็ได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น
เรื่อยๆ จนกระทั่งปี 2535 บริษัท เดลแมกซ์แมชินเนอรี่ จำกัด
จึงก่อตั้งขึ้น โดยปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนกว่า 100 ล้านบาท
ตัวผมเอง ขณะกำลังศึกษาก็มีโอกาสเข้ามาทำงานที่บริษัท
ในตำแหน่งต่างๆ ตั้งแต่ล่างสุด และเมื่อเรียนจบก็ได้มาช่วยธุรกิจของ
ครอบครัว
กุญแจสู่ความสำเร็จในวันนี้
ผมมองว่าธุรกิจจะเติบโตได้ต้องมีรากฐานที่แข็งแรง เมื่อ
เข้ามารับตำแหน่งผมและเพื่อนร่วมงานจึงเริ่มปรับปรุงกระบวนการ
ทำงานต่างๆ ให้มีระบบมากยิ่งขึ้น รับสมัครเพื่อนร่วมงานที่มีความรู้
ความสามารถ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรู้ของเพื่อนร่วมงาน
มีการศึกษาดูงานต่างประเทศ ในด้านวิศวกรรมผมปรับปรุงระบบ
การผลิตเครื่องจักรอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับทำการวิจัยและพัฒนา
(R&D) ควบคู่กันไป จัดทำระบบงานซ่อมบำรุง ทดลองการผลิต
เครื่องจักรด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้เป็นผู้นำของตลาดใน
ประเทศ ทำให้ได้รับรางวัลต่างๆ มากมายเช่น ปี 2556 ได้รับรางวัล
|
|
|
|
ที่ 2 สาขาเครื่องจักรกลการผลิตจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปี 2558 ได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมของประเทศไทยจาก
กระทรวงอุตสาหกรรม และได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008 เป็นต้น
ปัญหา/อุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ
ผมมองว่า Know-how เป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ยิ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราจึงต้อง
ไม่หยุดที่จะพัฒนาเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และอีกสิ่งหนึ่งคือ การตลาด ซึ่งการทำการตลาดไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยาก
จนเกินไป ผมใช้หลักทางด้านวิศวกรรมมาเป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์เพื่อช่วยในการตัดสินใจ ใช้หลักการตลาดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า
นั่นหมายถึง การทำให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงประโยชน์ ประสิทธิภาพของสินค้า และความคุ้มค่าที่ลูกค้าจะได้รับเมื่อสั่งสินค้าจากเรา การบริการต้อง
รวดเร็วเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่เกิดปัญหา นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลความรู้ผ่านทางสื่อโซเชียลต่างๆ ของบริษัท โดยผมยึดหลักให้ลูกค้าพึงพอใจ
และเข้าถึงข้อมูลได้มากที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจ โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องสั่งสินค้าจากบริษัท แต่เราก็ยินดีที่จะให้ข้อมูลแก่
ลูกค้าอย่างเต็มที่ครับ เพราะเราคิดว่าการตัดสินใจซื้อสินค้าต้องมาจากความคุ้มค่าที่ลูกค้ารับรู้และสัมผัสได้จริงๆ
เคล็ดลับบริหารงาน
“ความอดทน” ครับ ผมเชื่อว่าในการทำงานปัญหาเกิดขึ้นได้ทุกวัน เพียงแต่เราต้องใช้ “สติ” จัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น บางครั้ง
อาจเป็นปัญหาที่ยากเกินกว่าจะแก้ไขได้ เราอาจต้องใช้ความอดทนรอคอยเวลาที่หาทางแก้ไขปัญหา เพราะผมเชื่อว่าทุกปัญหามีทาง
แก้ไขเสมอ อีกสิ่งหนึ่งคือ ผมจะไม่ละเลยโอกาสต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ผมเชื่อว่าโอกาสเหล่านั้นคือโชค ซึ่งอาจจะผ่านเข้ามาแค่
ครั้งเดียวเท่านั้น ฉะนั้นเมื่อมีโอกาสเข้ามาผมจะรีบคว้าเอาไว้ และสิ่งสุดท้ายคือ ผมจะบอกกับเพื่อนร่วมงานเสมอว่า ทุกคนไม่ได้ทำงานให้
บริษัท แต่ทุกคนทำงานให้กับลูกค้า ทีมของเราต้องมีใจรักการบริการ พร้อมและเต็มใจที่จะช่วยเหลือลูกค้าทุกครั้งเมื่อเกิดปัญหา เราจึงมี
ทีมงานบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ มีความรวดเร็วในการแก้ปัญหา เพื่อความพึงพอใจของลูกค้า เพราะเรารู้ว่าทุกนาทีในการผลิตที่ต้อง
หยุดชะงักลงนั่นหมายถึงจำนวนของสินค้าที่หยุดผลิตลงไปด้วย ฉะนั้นเราต้องเข้าใจธุรกิจของลูกค้า เสมือนเป็นธุรกิจของเราเองครับ
การสนับสนุนจาก EXIM BANK
ในปี 2557 EXIM BANK ได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทในการลงทุนผลิตเครื่องจักรไปยังประเทศเมียนมา ทำให้มีสัดส่วน
การส่งออกกว่า 50 % ซึ่งในอนาคตบริษัทมีนโยบายที่จะเพิ่มการลงทุนซื้อเครื่องจักรพร้อมกับขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV เพิ่ม
มากขึ้นครับ
ฝากถึงผู้ประกอบการไทย
ผมคิดว่าประเทศไทยมีสินค้าที่ดี โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่สามารถนำมาแปรรูปและใส่ภาชนะบรรจุสวยๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับ
สินค้าได้ และยิ่งเรามี Know-how ที่ดี เราจะสามารถส่งสินค้าไทยที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครไปขายในตลาดต่างประเทศได้ แต่ปัจจัย
แห่งความสำเร็จคือ การตลาดและการสร้างแบรนด์ การตลาดจะช่วยให้สินค้าของเราเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ส่วนการสร้างแบรนด์จะทำให้
ผู้บริโภคมั่นใจที่จะใช้สินค้าของเรา เชื่อมั่นในคุณภาพและแบรนด์ของเรา ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยต้องรู้จักคิดนอกกรอบ อย่าผลิตหรือ
ขายสินค้าตามๆ กันไป แต่เราควรเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้โดดเด่นกว่าผู้ผลิตรายอื่น และไม่มองข้ามโอกาสที่เข้ามา โอกาสบวกกับการ
วางแผนล่วงหน้าจะทำให้เราคาดการณ์ตลาดได้และประสบความสำเร็จในระยะยาวครับ
|
|
|
 |
 |
|