ผู้บริโภครัสเซียเลือกซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น
การเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในรัสเซีย แม้ผู้บริโภคต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เนื่องจากช่องทาง
ออนไลน์ถือเป็นทางเลือกในการหาซื้อสินค้าราคาถูกกว่าสินค้าที่มีจำหน่ายในร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้า โดยสินค้าที่ชาวรัสเซียเลือกซื้อ
ผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งยังเลือกซื้อจากเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าราคาถูกของจีน
และเว็บไซต์ของผู้ประกอบการในประเทศเพิ่มขึ้น จากเดิมที่นิยมเลือกซื้อจากเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Amazon และ Ebay เป็นหลัก
ชาวรัสเซียหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น
ที่ผ่านมารัสเซียขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุราค่อนข้างมาก รวมถึงนิยมบริโภคอาหารที่มีไขมันและ
แคลอรี่ค่อนข้างสูง แต่ปัจจุบันชาวรัสเซียเริ่มมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เห็นได้จากอัตราผู้สูบบุหรี่ของประชากรวัยผู้ใหญ่
ของรัสเซียที่ลดลงเหลือร้อยละ 38.6 ในปี 2557 จากร้อยละ 44 ในปี 2552 ขณะที่ปริมาณบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปี 2557 ลดลง
ร้อยละ 18 จากช่วง 5 ปีก่อนหน้า นอกจากนี้ ชาวรัสเซียยังมีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าอาหารสุขภาพมากขึ้น อาทิ อาหารอินทรีย์ และน้ำผลไม้
รวมถึงมีแนวโน้มลดการบริโภคอาหารหวานและผลิตภัณฑ์จากนม อาทิ ชีสและเนย ทั้งนี้ การออกกำลังกายในฟิตเนสได้รับความนิยม
ค่อนข้างมากในรัสเซีย ดังนั้น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับออกกำลังกาย อาทิ Smart Watch ซึ่งสามารถจับชีพจรและการเคลื่อนไหว ก็เป็น
สินค้าอีกประเภทที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น แต่อาจจำกัดอยู่ในกลุ่มผู้บริโภคที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนัก
ผู้สูงอายุขยายเวลาเกษียณอายุ
ปัญหาเศรษฐกิจที่สั่นคลอนความมั่นคงในการดำเนินชีวิต ส่งผลให้ชาวรัสเซียมีแนวโน้มที่จะทำงานหลังเกษียณอายุเพิ่มขึ้น โดย
เกณฑ์การเกษียณอายุของรัสเซียสำหรับผู้ชายอยู่ที่ 65 ปี และผู้หญิงอยู่ที่ 60 ปี แต่จากการสำรวจของ World Bank พบว่าร้อยละ 40 ของ
ผู้ชาย และร้อยละ 33 ของผู้หญิง ยังคงทำงานต่อหลังวัยเกษียณ โดยปัญหาเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงราวร้อยละ 15.5 ในปี 2558 เป็น
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชาวรัสเซียยังต้องการทำงานต่อหลังเกษียณอายุ ทั้งนี้ รัสเซียมีประชากรอายุมากกว่า 65 ปี อยู่ร้อยละ 14 ของประชากร
รวม นับได้ว่าก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) แล้ว แต่สัดส่วนดังกล่าวยังต่ำกว่าประเทศส่วนใหญ่ใน EU ค่อนข้างมาก อาทิ อิตาลี
(ร้อยละ 22) กรีซ (ร้อยละ 21) และเยอรมนี (ร้อยละ 21) การขยายเวลาเกษียณอายุดังกล่าวคาดว่าจะช่วยให้ผู้สูงอายุชาวรัสเซียสามารถ
รักษาความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยไว้ได้ในระดับหนึ่ง
ปัญหาเศรษฐกิจทำให้ชาวรัสเซียมีความสามารถในการซื้อบ้านลดลง
ชาวรัสเซียมีความสามารถในการซื้อบ้านลดลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับสูงขึ้นมาก ส่งผลให้ผู้บริโภคที่เพิ่งเริ่มทำงาน
ประสบความยากลำบากในการหาซื้อบ้านเป็นของตนเอง โดยส่วนหนึ่งต้องแก้ปัญหาด้วยการหาบ้านขนาดเล็กและมีราคาถูกลง อาทิ
อพาร์ตเมนต์ 1 ห้องนอน ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นแทนอพาร์ตเมนต์ 2 ห้องนอน ซึ่งเป็นที่นิยมมากในอดีต นอกจากนี้ ปัญหาอัตราดอกเบี้ย
เงินกู้ที่ปรับสูงขึ้นยังส่งผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ระหว่างการผ่อนบ้านด้วยเช่นกัน ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังความสามารถในการจับจ่ายใช้สอย
สินค้าอื่นๆ ของชาวรัสเซียด้วย |