การส่งออกในช่วงแรกจะเป็นการส่งออกข้าวฟ่างที่เก็บเกี่ยวแล้วเป็นวัตถุดิบกลับไปผลิตเป็นไม้กวาดที่ไต้หวัน ต่อมาทางไต้หวัน
เริ่มสอนการทำเป็นไม้กวาดทีละขั้นตอน เริ่มจากมัดเป็นจุกเล็กๆ แล้วนำมามัดรวมกันเป็นไม้กวาด ไม้กวาดชนิดแรกที่ผลิต คือ ไม้กวาด
กระโปรง นั่นคือจุดเริ่มต้นที่เริ่มส่งออกไม้กวาดข้าวฟ่างไปไต้หวัน ต่อมาเป็นเรื่องบังเอิญมากที่มีชาวญี่ปุ่นทำธุรกิจไม้กวาดมาเที่ยวที่เชียงราย
เขาขับรถผ่านหน้าโรงงานของผมแล้วเห็นไม้กวาดตากอยู่ จึงเข้ามาคุยและสั่งซื้อไม้กวาดจากโรงงานผม นอกจากนี้ ชาวญี่ปุ่นคนนั้นได้มี
การแนะนำเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับการทำไม้กวาด เช่น การย้อมสี การทำไม้กวาดในรูปแบบต่างๆ จนทำให้ปัจจุบันผมส่งออกไม้กวาดไป
ญี่ปุ่นเป็นหลักคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90% นอกจากนี้ ยังมีส่งออกไปอเมริกาและแถบยุโรปบ้าง เช่น สวีเดน
อุปสรรคในการดำเนินธุกิจ
การทำธุรกิจจะมีปัญหาอยู่ตลอด ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก อุปสรรคประการแรกที่พบคือ การปลูกเมล็ดพันธุ์ข้าวฟ่างแล้ว
ไม่ได้ผล เนื่องจากชาวบ้านไม่ได้เอาใจใส่เท่าที่ควร และปัญหาจากสภาพอากาศ เช่น ฝนทิ้งช่วง ขณะที่ข้าวฟ่างเป็นพืชที่ต้องปลูกในฤดูฝน
ส่วนปัญหาเรื่องคู่แข่งจะมีในช่วงจีนเปิดประเทศ ชาวไต้หวันได้เข้าไปส่งเสริมการทำไม้กวาดในจีน ทำให้มีการผลิตไม้กวาดออกมา
จำนวนมากและราคาถูกกว่า ชาวญี่ปุ่นที่เคยเป็นลูกค้าผมก็หันไปซื้อสินค้าจากจีน เพราะสามารถนำไปขายในญี่ปุ่นแล้วได้กำไรมากขึ้น
ทำให้ยอดสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานผมลดลง แต่เนื่องจากสินค้าของจีนไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร พอสั่งเข้าไปขายในญี่ปุ่นแล้วขายไม่ได้
จึงกลับมาสั่งซื้อสินค้าของไทยเราเหมือนเดิม ในขณะเดียวกันผมก็ได้มีโอกาสเดินทางไปดูงานที่กวางโจว ประเทศจีน ก็พบว่า ราคาไม้กวาด
ของจีนถูกกว่าของไทยครึ่งหนึ่ง ทำให้ต้องกลับมาพัฒนาสินค้าของเราให้มีความแตกต่าง จึงมีการเริ่มย้อมสีไม้กวาดออกจำหน่าย เพื่อสร้าง
จุดเด่นให้กับสินค้า
วิธีบริหารจัดการความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ
ผมจะเน้นให้ลูกค้าเปิด Letter of Credit (L/C) แต่ลูกค้าบางรายไม่ได้จำหน่ายไม้กวาดโดยตรง ก็จะสั่งจำนวนไม่มากนักเพื่อนำไป
ทดลองขายก่อน ผมจะให้วางมัดจำค่าสินค้าก่อน 50% และกำหนดวงเงินว่าต้องสั่งซื้อเป็นจำนวนเงินเท่าไร เราถึงจะผลิตสินค้าให้ ส่วน
ความเสี่ยงในด้านการชำระเงินจะไม่ค่อยเกิดขึ้นกับลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าแล้ว แต่เกิดขึ้นกับคนที่มาสั่งให้ทำตัวอย่างสินค้าในงานแสดงสินค้าต่างๆ พอส่งตัวอย่างสินค้าไป แล้วไม่มีการติดต่อกลับมา
นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาในภาวะที่ค่าเงินผันผวน ผมใช้บริการ Forward Contract ของ EXIM BANK เพื่อให้ทราบอัตรา
แลกเปลี่ยนที่แน่นอน
กุญแจสู่ความสำเร็จ
ต้องมีความตั้งใจ ใส่ใจรายละเอียดในทุกขั้นตอน รักษามาตรฐานสินค้า ทั้งขนาด คุณภาพ น้ำหนัก และระยะเวลาในการส่งมอบสินค้า เนื่องจากเป็นสินค้าหัตถกรรม ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน ชาวบ้านแต่ละคนกว่าจะผลิตสินค้าให้ได้ตรงตามมาตรฐาน ทั้งด้านคุณภาพและ
ปริมาณที่ผลิตได้ต่อวัน ต้องใช้เวลาฝึกอย่างน้อย 3 เดือน รวมทั้งเราต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์แวดล้อมต่างๆ ด้วย เช่น ก่อนหน้านี้
ผมมีโรงงานอยู่แห่งเดียวที่ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย แต่เนื่องจากคนทางภาคเหนือจะยึดถือธรรมเนียมประเพณีของหมู่บ้านเป็นหลัก เวลามี
งานศพ งานแต่งงาน หรือเทศกาลต่างๆ คนทั้งหมู่บ้านจะหยุดงานเพื่อไปร่วมงาน ทำให้ไม่มีคนผลิตสินค้าและเกิดปัญหาตามมาคือ ส่งสินค้า
ให้ลูกค้าไม่ได้ตามกำหนดเวลา จึงเป็นสาเหตุให้ผมต้องไปตั้งโรงงานอีกแห่งหนึ่งที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งทั้ง 2 อำเภอนี้ชาวบ้านมี
ประเพณีไม่เหมือนกัน วันหยุดต่างกัน ทำให้เราสามารถวางแผนและผลิตสินค้าได้ตามจำนวนที่ลูกค้าต้องการ นอกจากนี้ การสร้างงานสร้าง
รายได้ให้แก่ชาวบ้านก็เป็นความภูมิใจของผมที่ได้ช่วยดูแลเกษตรกรไทยและครอบครัวให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นในระดับหนึ่ง
การสนับสนุนของ EXIM BANK ช่วยธุรกิจของท่านอย่างไร
ผมใช้บริการทางการเงินของ EXIM BANK มานานกว่า 20 ปี เพราะมองเห็นว่า EXIM BANK เป็นธนาคารที่ให้บริการเกี่ยวกับการ
ส่งออกโดยตรง ในเรื่องของการส่งออก EXIM BANK ตอบโจทย์ได้อย่างครบวงจรทั้งสินเชื่อ ขายลดตั๋วส่งออก และ Forward Contract
ฝากถึงผู้ประกอบการทั่วไป และผู้ที่สนใจจะเริ่มต้นธุรกิจส่งออก-ลงทุน
สิ่งแรกที่ต้องมีในการทำธุรกิจส่งออกคือ ประเมินตัวเองว่ามีความพร้อมและศักยภาพเพียงพอหรือไม่ ถ้า 2 สิ่งนี้ยังไม่มี ก็ยังไม่ควร
เริ่มทำธุรกิจ หากเริ่มทำในขณะที่เรายังไม่มีความพร้อม ถึงมีลูกค้าเข้ามา ไม่นานลูกค้าเหล่านั้นก็จะหันไปซื้อสินค้าจากบริษัทอื่น
ประการต่อมาคือ คุณภาพ ระยะเวลาการส่งมอบ และราคาสินค้า จะต้องตอบโจทย์ของลูกค้าได้ทั้ง 3 เรื่อง ธุรกิจเราถึงจะไปต่อได้
และผมจะพยายามให้คู่ค้าของเราได้ประโยชน์มากกว่าเราเล็กน้อย เขาจะได้เป็นลูกค้าเราไปนานๆ เพื่อความมั่นคงของธุรกิจเราในระยะยาว
|