Augmented Reality (AR)…เทคโนโลยีล้ำสมัยสร้างโอกาสต่อยอดธุรกิจ  
            ในปี 2559 ได้เกิดกระแสเกมออนไลน์อย่าง Pokemon GO ซึ่ง Guinness
World Records เปิดเผยว่า Pokemon GO สร้างสถิติใหม่ให้กับวงการเกมออนไลน์
หลายด้าน อาทิ เกมที่ทำรายได้สูงสุด และเกมที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดภายใน
เดือนแรกของการให้บริการ โดยปัจจัยแห่งความสำเร็จของ Pokemon GO คือ การ
นำเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) มาสร้างตัวการ์ตูนให้ปรากฏเป็น
ภาพเสมือนและเคลื่อนไหวได้เหมือนมีชีวิตจริงบน Smartphone ในสถานที่ต่างๆ
ที่ผู้เล่นเกมเดินทางไปเพื่อตามหาตัวการ์ตูน และด้วยความโด่งดังของเกมดังกล่าว
ทำให้เทคโนโลยี AR เป็นที่รู้จักมากขึ้น ดังนั้น เพื่อก้าวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง
ทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล ส่องเทรนด์โลกฉบับนี้จะนำท่านผู้อ่าน
ทำความรู้จักกับเทคโนโลยี AR ให้มากขึ้น พร้อมยกตัวอย่างประสบการณ์ของบริษัท
ชั้นนำของโลกในธุรกิจต่างๆ ที่นำเทคโนโลยี AR มาประยุกต์ใช้

          ทำความรู้จักกับเทคโนโลยี AR
          Augmented Reality (AR) คือเทคโนโลยีที่ใช้สร้างตัวอักษร ข้อความ
รูปภาพ หรือวิดีโอให้เกิดขึ้นเป็นภาพเสมือนซ้อนทับกับภาพจริงปรากฏบนอุปกรณ์
อิเล็กทรอนิกส์ อาทิ Smartphone, Tablet, แว่นตาอัจฉริยะ (Smart Glasses)
และอุปกรณ์แสดงภาพเสมือนแบบสวมศีรษะ (Head Mounted Display) ซึ่งติดตั้ง
แอพพลิเคชั่น AR ทั้งนี้ ตัวอย่างแอพพลิเคชั่น AR ที่แบ่งตามลักษณะการทำงาน
มีดังนี้
             1. Marker-based เป็นแอพพลิเคชั่น AR ที่อ่านสัญลักษณ์ AR Code
ซึ่งเมื่อผู้ใช้งานส่องกล้องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปยังภาพหรือบริเวณที่มีสัญลักษณ์
AR Code ระบบจะประมวลผลสัญลักษณ์ดังกล่าวออกมาเป็นภาพ 3 มิติ หรือ
ภาพเคลื่อนไหวปรากฏบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
             2. Location-based คือแอพพลิเคชั่น AR ที่ทำงานร่วมกับระบบ Global
Positioning System (GPS) ของ Smartphone ทำให้สามารถระบุตำแหน่งของ
ผู้ใช้งานและเมื่อส่องกล้อง Smartphone ไปยังสถานที่รอบตัวผู้ใช้งาน ระบบจะ
ประมวลผลแล้วส่งภาพเสมือนหรือวิดีโอซ้อนทับกับสถานที่ที่ผู้ใช้งานอยู่สร้างความ
รู้สึกให้กับผู้ใช้งานเสมือนกับเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ
 
 
          
ประโยชน์ของ AR…จุดประกายสร้างโอกาสต่อยอดธุรกิจ
          Global Market Insights Inc. ประเมินว่ามูลค่าตลาดเทคโนโลยี AR ทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และซอฟต์แวร์ จะพุ่งแตะระดับ 165 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2567 หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 81% ต่อปี (CAGR) ในช่วงปี 2559-2567 โดยคาดว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ ธุรกิจ
ค้าปลีก และธุรกิจทางการแพทย์จะนำเทคโนโลยี AR ไปใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลาย ปัจจุบันตัวอย่างการประยุกต์ใช้งาน AR ในธุรกิจต่างๆ
มีดังนี้
             - ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขาย ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าระดับโลกเล็งเห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยี AR และนำมา
ต่อยอดใช้ในงานประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างโอกาสให้ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น อาทิ IKEA (ผู้จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์
รายใหญ่ของโลก) นำเสนอแอพลิเคชั่น AR ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์จากหนังสือแสดงรายการสินค้าที่มี AR Code และใช้
Smartphone หรือ Tablet ส่องไปยังบริเวณที่ต้องการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งภาพเฟอร์นิเจอร์เสมือนจริงจะปรากฏในบริเวณดังกล่าว ช่วยให้
ลูกค้าสามารถตัดสินใจเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากับสถานที่ติดตั้งได้อย่างเหมาะสม ขณะที่ SEPHORA (ร้านจำหน่ายเครื่องสำอางของ
ฝรั่งเศสที่มีสาขาทั่วโลก) นำเทคโนโลยี AR มาจำลองภาพการแต่งหน้าให้กับลูกค้า ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกสีเครื่องสำอางให้เข้ากับสีผิว
ของตนเองได้ดียิ่งขึ้น ส่วน Heinz (ผู้ผลิตและจำหน่ายซอสมะเขือเทศชื่อดังของโลก) กระตุ้นยอดจำหน่ายสินค้าด้วยหนังสือสอน
ทำอาหาร 3 มิติ ซึ่งจะปรากฏอยู่ข้างขวดเมื่อมองผ่านแอพลิเคชั่นบน Smartphone หรือ Tablet กลยุทธ์ดังกล่าวจูงใจให้ลูกค้าอยากซื้อ
สินค้าเพื่อกลับไปทดลองประกอบอาหารตามรายการดังกล่าวที่บ้าน
             - สื่อการศึกษาและการฝึกอบรม อาทิ G Softbiz Co., Ltd. ผลิตแอพพลิเคชั่นนิทาน LarTo 3D สำหรับใช้อ่านนิทาน โดยใช้
เทคโนโลยี AR ทำให้ตัวการ์ตูนไดโนเสาร์ในนิทานออกมาเป็นภาพ 3 มิติ สีสันสวยงาม เคลื่อนไหวได้เหมือนมีชีวิตจริง และมีเสียงบรรยาย
ประกอบ ช่วยดึงดูดความสนใจและกระตุ้นการเรียนรู้เด็กในวัย 3-12 ปี เทียบกับหนังสือนิทานแบบเดิมๆ ที่มีเพียงตัวหนังสือและภาพประกอบ
2 มิติเท่านั้น ขณะที่ BMW สร้างภาพจำลองขั้นตอนการประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ด้วยเทคโนโลยี AR พร้อมระบุเครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้ใน
แต่ละขั้นตอน เพื่อใช้เป็นสื่อในการฝึกอบรมพนักงาน ซึ่งช่วยให้พนักงานเรียนรู้ได้รวดเร็ว และยังมีส่วนช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ระหว่างการปฏิบัติงาน
             - อำนวยความสะดวกการเดินทาง อาทิ Urban Engines พัฒนาแอพพลิเคชั่นนำทาง โดยนำเทคโนโลยี AR มาต่อยอดการ
ใช้ประโยชน์จาก Google Maps ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผู้ใช้ถนนค้นหาเส้นทางและวางแผนการเดินทางให้ถึงจุดหมายได้อย่างเหมาะสมแล้ว
ยังช่วยประเมินความหนาแน่นของจำนวนรถยนต์เป็นรูป 3 มิติ ซ้อนทับบนเส้นทางไปพร้อมกัน ขณะที่ GeoTravel เป็นแอพพลิเคชั่นที่ให้
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวที่ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นดังกล่าวเมื่อใช้กล้องของ Smartphone หรือ Tablet ส่องไปยังสถานที่
ท่องเที่ยวที่ตนไปถึงจะปรากฏข้อมูลสำคัญของสถานที่ท่องเที่ยวนั้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวค้นหาข้อมูลประกอบการเดินทางท่องเที่ยวได้
สะดวกยิ่งขึ้น

          สำหรับผู้ประกอบการไทย พบว่ามีการนำเทคโนโลยี AR มาใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจแล้วเช่นกัน อาทิ Tarad.com (ผู้ให้บริการ
E-Commerce รายใหญ่ของไทย) ใช้เทคโนโลยี AR ช่วยลูกค้าค้นหาตำแหน่งที่ตั้งร้านจำหน่ายสินค้าและระยะทางระหว่างลูกค้ากับที่ตั้งร้าน
ขณะที่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อย่าง บมจ.แสนสิริ นำเทคโนโลยี AR มาอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าใช้ค้นหาข้อมูลโครงการ
ก่อสร้างของบริษัทที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับลูกค้า พร้อมระบุข้อเสนอส่วนลดราคา รวมถึงร้านค้าสำคัญๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อ
ให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ของบริษัท ทั้งนี้ ด้วยประโยชน์ของเทคโนโลยี AR ที่นำมาประยุกต์
ใช้งานได้หลากหลาย ตลอดจนประสบการณ์ของผู้ประกอบการต่างชาติและผู้ประกอบการไทยที่นำเทคโนโลยี AR มาใช้แล้วเกิดประโยชน์
เชิงธุรกิจ ดังนั้น ผู้ประกอบการที่สนใจนำเทคโนโลยี AR มาใช้ อาจศึกษาตัวอย่างจากธุรกิจที่ยกมาข้างต้น และนำมาปรับใช้กับธุรกิจของตน
อย่างเหมาะสม คาดว่าจะมีส่วนช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ท่ามกลางการแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรงในปัจจุบัน
 
  ที่มา : www.interactionmarketing.com  
  Disclaimer : ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น
โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ ไม่ว่าโดยทางใด