 |
 |
|
ไลฟ์สไตล์สุดฮิตของชาวเมียนมาในยุคสังคมเมือง |
|
|
 |
 |
|
 |
นับตั้งแต่รัฐบาลเมียนมาดำเนินนโยบายเปิดประเทศในปี 2553
เป็นต้นมา เศรษฐกิจเมียนมาก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับนโยบาย
พัฒนาประเทศ และอิทธิพลของกระแสเทคโนโลยียุคใหม่ล้วนเป็น
ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เมียนมาเข้าสู่สังคมเมือง (Urbanization) มากขึ้น
เห็นได้จากในปี 2558 สัดส่วนประชากรที่อยู่ในเขตเมืองของเมียนมาอยู่ที่
ราว 34% ของประชากรทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 29% ในปี 2548 นอกจากนี้
The Boston Consulting Group บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำคาดว่ากลุ่มประชากร
เมียนมาที่มีรายได้ปานกลางขึ้นไป (Middle and Affluent Class: MAC)
ซึ่งมีรายได้ต่อเดือนสูงกว่า 120 ดอลลาร์สหรัฐ จะมีจำนวนราว 10.3 ล้านคน
ภายในปี 2563 คิดเป็นสัดส่วน 15% ของประชากรทั้งประเทศ ทั้งนี้ การ
เข้าสู่สังคมเมืองและการเพิ่มขึ้นของกลุ่มประชากร MAC ทำให้พฤติกรรม
การบริโภคของชาวเมียนมา โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่มีความคล้ายคลึง
กับรูปแบบการบริโภคของผู้คนในเมืองใหญ่ๆ ในอาเซียน อาทิ กรุงเทพฯ
กัวลาลัมเปอร์ และจาการ์ตามากยิ่งขึ้น โดยตัวอย่างพฤติกรรมการบริโภค
ของชาวเมียนมายุคใหม่ในเขตเมืองใหญ่ที่เปลี่ยนไปชัดเจน อาทิ
การเข้าโรงภาพยนตร์กลับมาบูมอีกครั้ง
ในช่วง 60 ปีก่อน ชาวเมียนมาเคยนิยมชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์
เป็นอย่างมาก ซึ่งในขณะนั้นเมียนมามีโรงภาพยนตร์มากกว่า 200 แห่ง
ทั่วประเทศ แต่หลังจากรัฐบาลทหารเข้าปกครองประเทศ โรงภาพยนตร์
ลดจำนวนลงเหลือราว 40 แห่งเท่านั้น ส่งผลให้ชาวเมียนมาบางส่วนเลือกชม
ภาพยนตร์ที่บ้านจาก VCD/DVD แทน อย่างไรก็ตาม หลังจากเมียนมาเปิด
ประเทศอีกครั้ง ชาวเมียนมากลับมานิยมชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์
มากขึ้น ปัจจุบันภาพยนตร์ที่ฉายในเมียนมามีทั้งภาพยนตร์เมียนมา
ภาพยนตร์ไทย และภาพยนตร์ชาติอื่นๆ เช่นเดียวกับที่ฉายในประเทศไทย
ขณะเดียวกันโรงภาพยนตร์ก็พัฒนาเป็นระบบ Multiplex โดยเครือ
โรงภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยม เช่น Mega Ace Cineplex, Mingalar San
Pya Cineplex และ Junction Cineplex เป็นต้น โรงภาพยนตร์เหล่านี้
|
|
|
|
ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ แนวโน้มการชมภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้บริษัทผู้ดำเนินธุรกิจโรงภาพยนตร์
เอกชนของเมียนมามีแผนสร้างโรงภาพยนตร์เพิ่มอีก 100 แห่งทั่วประเทศภายปี 2561
Fast Food และ Modern Cafe เทรนด์ใหม่ของชาวเมียนมา
การเข้าสู่สังคมเมืองของเมียนมาส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนในเขตเมืองใหญ่มีความเร่งรีบมากขึ้น การรับประทาน
อาหารจานด่วน (Fast Food) จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยม ขณะเดียวกันกระแสการดื่มกาแฟตามร้านกาแฟสมัยใหม่ก็เป็นที่นิยม
มากขึ้นในเมียนมาเช่นเดียวกับเมืองใหญ่อื่นๆ ทั่วโลก โดยปัจจุบันเครือร้านอาหารจานด่วนและร้านกาแฟสมัยใหม่ชื่อดังหลายแห่งจาก
ต่างประเทศเข้ามาเปิดให้บริการในเมียนมาโดยเฉพาะในเมืองย่างกุ้งและมัณฑะเลย์แล้ว อาทิ |
|
|
|
|
ตัวอย่างร้านอาหารจานด่วนชื่อดัง |
ตัวอย่างร้านกาแฟสมัยใหม่ |
ปีที่เปิด
ให้บริการ |
|
|
 |
 |
|
 |
Pizza Hut (สหรัฐฯ)
|
 |
Gloria Jean's Coffees (ออสเตรเลีย) |
ปี 2559 |
|
|
 |
 |
|
 |
KFC (สหรัฐฯ) |
 |
True Coffee (ไทย) |
ปี 2559 |
|
|
 |
 |
|
 |
Lotteria (เกาหลีใต้) |
 |
Chao Doi (ไทย) |
ปี 2558 |
|
|
 |
 |
|
 |
Marrybrown (มาเลเซีย) |
 |
Black Canyon Coffee (ไทย) |
ปี 2558 |
|
|
 |
 |
|
 |
CP Five Star (ไทย) |
 |
Gong Cha (ไต้หวัน) |
ปี 2558 |
|
|
 |
 |
|
 |
Krispy Kreme (สหรัฐฯ)* |
 |
Ya Kun Kaya Toast (สิงคโปร์) |
ปี 2556 |
|
|
|
|
หมายเหตุ : *เตรียมเปิดสาขาในเมียนมาภายใน 5 ปีข้างหน้า
ที่มา : รวบรวมโดยฝ่ายวิจัยธุรกิจ EXIM BANK |
|
|
 |
|
Facebook...ช่องทางทำความรู้จักชาวเมียนมายุคใหม่
กระแสเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีอิทธิพลมากขึ้นในเมียนมาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชาวเมียนมายุคใหม่นิยมใช้อินเตอร์เน็ตและ Social Media มากขึ้นเช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ We Are Social บริษัทด้านสื่อโฆษณาชั้นนำระบุว่าในช่วงต้นปี 2560 จำนวนผู้ใช้
อินเตอร์เน็ตในเมียนมาเพิ่มขึ้น 97% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะ Social Media ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จากการ
สำรวจของ Nielsen บริษัทวิจัยชั้นนำพบว่า Social Media ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากชาวเมียนมา 5 อันดับแรก ได้แก่ |
|
|
 |
|
1. |
 |
Facebook (เป็น Social Media ที่ได้รับความนิยมสูงถึง 99% ของโปรแกรม Social Media ทั้งหมด) |
|
2. |
 |
Thit Htoo Lwin (เว็บไซต์/แอพพลิเคชันข่าว) |
|
3. |
 |
Google |
|
4. |
 |
Myanmar News (เว็บไซต์/แอพพลิเคชันข่าว) |
|
5. |
 |
G-talk (โปรแกรม/แอพพลิเคชันสนทนา) |
|
 |
 |
|
พฤติกรรมของชาวเมียนมาในเขตเมืองใหญ่ที่เปลี่ยนไปส่งผลให้โอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการเจาะตลาด
เมียนมาไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในกลุ่มสินค้าและบริการพื้นฐานที่มีราคาไม่สูงนักอีกต่อไป กระแสความนิยมของชาวเมียนมายุคใหม่ใน
สังคมเมืองมีความคล้ายคลึงกับไทย ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าไปทำตลาดในเมียนมาได้หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะ
ในกลุ่มสินค้าและบริการที่รองรับรูปแบบการใช้ชีวิตในสังคมเมือง เช่น โรงภาพยนตร์และสื่อบันเทิง ร้านอาหารและเครื่องดื่มสมัยใหม่
สถานเสริมความงาม ฟิตเนส ศูนย์ประดับยนต์ และศูนย์ Car Care เป็นต้น นอกจากนี้ ความนิยมใช้โทรศัพท์มือถือในรูปแบบ Smartphone
ของชาวเมียนมาที่สูงถึง 62% ของจำนวนโทรศัพท์มือถือทั้งหมด มากกว่าเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียที่ใช้ Smartphone ราว 52%
34% และ 23% ตามลำดับ ความนิยมดังกล่าวในเมียนมานับว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการดำเนินธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
กับ Digital Content เช่น การผลิตสื่อโฆษณาออนไลน์สำหรับใช้บนแอพพลิเคชัน การออกแบบและผลิตแอพพลิเคชันต่างๆ การตลาด/
โฆษณาออนไลน์ เป็นต้น ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่าปัจจุบันรูปแบบพฤติกรรมการบริโภคของชาวเมียนมาค่อนข้างเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัด
เฉพาะในเขตเมืองใหญ่ อาทิ เมืองย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ แต่ในระยะถัดไปมีหลายเมืองในเมียนมา อาทิ เมืองพะสิม (เขตอิรวดี) เมืองตองยี
(รัฐชาน) เมืองสะกาย (เขตสะกาย) และเมืองพะโค (เขตพะโค) ซึ่งมีประชากรจำนวนมาก มีแนวโน้มก้าวเข้าสู่สังคมเมืองมากขึ้น ส่งผลให้
รูปแบบพฤติกรรมการบริโภคของชาวเมียนมาในเมืองดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไปในอนาคตเช่นกัน ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงไม่ควรมองข้าม
เมืองเหล่านี้ที่กำลังจะเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ศักยภาพสำหรับการเจาะตลาดในระยะถัดไป |
|
|
 |
 |
 |
|
Disclaimer : ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น
โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ ไม่ว่าโดยทางใด |
|
|
 |
 |
|