รถไฟความเร็วสูงจีน-สปป.ลาว...อีกหนึ่งเส้นทางเชื่อมจีนสู่อาเซียน  
            จีนและ สปป.ลาว มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่เหนียวแน่น
มาอย่างยาวนาน โดยต่างให้ความร่วมมือกันในหลายด้าน รวมถึงการ
ช่วยเหลือกันในด้านการค้าสินค้าและการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งนับตั้งแต่
สปป.ลาว มีนโยบายสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศเมื่อปี 2532
จนถึงปัจจุบัน จีนเป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนใน สปป.ลาว มากที่สุด
ด้วยมูลค่าการลงทุนสะสมกว่า 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 30%
ของมูลค่าเงินลงทุนจากต่างประเทศสะสมทั้งหมดใน สปป.ลาว ล่าสุด
จีนได้ร่วมลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงระหว่างนครคุนหมิง
ของจีนและนครหลวงเวียงจันทน์ของ สปป.ลาว ในสัดส่วนสูงถึง 70%
ของมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมด ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทาง
รถไฟสายคุนหมิง-สิงคโปร์ภายใต้ยุทธศาสตร์ One Belt, One Road
ของจีนที่ต้องการเชื่อมโยงการขนส่งภายในอาเซียน ปัจจุบันเส้นทางรถไฟ
ความเร็วสูงสายนี้ได้เริ่มก่อสร้างแล้วและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 ซึ่ง
จะทำให้การขนส่งจากจีนไปยังประเทศต่างๆ มีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น
สอดคล้องกับที่ทางการ สปป.ลาว คาดว่าการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า
ด้วยรถไฟความเร็วสูงจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปยังชายแดนของจีนจะมี
ต้นทุนลดลงเมื่อเทียบกับการขนส่งทางถนนราว 40% และ 70%
ตามลำดับ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งระหว่างกันได้อย่างมีนัยสำคัญ
 
            เป็นที่น่าสังเกตว่า เส้นทางรถไฟความเร็วสูงจากนครคุนหมิงไปยังนครหลวงเวียงจันทน์รายล้อมด้วยพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญหลายแห่ง
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ใน สปป.ลาว ที่นักลงทุนจีนเข้าไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจ ที่สำคัญ อาทิ
          1. เขตเศรษฐกิจพิเศษร่วมบ่อเต็นบ่อหาน แขวงหลวงน้ำทา ซึ่งเป็นศูนย์กระจายสินค้าและแหล่งธุรกิจบันเทิงที่มีชื่อเสียงของ
สปป.ลาว อีกทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา ซึ่งเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนเป็นอย่างมาก
          2. เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ แขวงบ่อแก้ว ปัจจุบันเป็นศูนย์กระจายสินค้าและศูนย์รวมธุรกิจบันเทิง อาทิ กาสิโน
และศูนย์การค้า ซึ่งในระยะถัดไปผู้พัฒนาโครงการมีแผนขยายการลงทุนในธุรกิจการแพทย์ สปา และสนามกอล์ฟ มูลค่ากว่า 2 พันล้าน
ดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2563 นอกจากนี้ ในแขวงบ่อแก้วยังมีโครงการ "นาคราชนคร" ซึ่งเป็นศูนย์รวมธุรกิจครบวงจรที่พัฒนาโดย
ผู้ประกอบการไทย ตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 บนพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ ในเมืองห้วยทรายใน สปป.ลาว และอีก 25 ไร่
ใน อ.เชียงของ จ.เชียงราย
          3. เขตเศรษฐกิจเฉพาะอุตสาหกรรมและการค้าเวียงจันทน์-โนนทอง นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรม
การผลิตและแหล่งกระจายสินค้าที่สำคัญของ สปป.ลาว นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรม Vita Park ซึ่งปัจจุบันมีนักลงทุน
ต่างชาติ รวมถึงนักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนแล้วหลายราย โดยนักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ เครื่องปรุงรส
เภสัชภัณฑ์ และสิ่งทอ รวมถึงการผลิตอาหารสัตว์ ขณะที่นักลงทุนจีนเข้าไปลงทุนในการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์
และเฟอร์นิเจอร์

          โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมจีนและ สปป.ลาว จะนำมาซึ่งโอกาสทางการค้าการลงทุนในหลายมิติ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว
และธุรกิจค้าปลีกที่คาดว่าจะขยายตัวอย่างมากจากโครงการรถไฟดังกล่าว ซึ่งถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการเข้าไปลงทุน
ตามแนวรถไฟความเร็วสูงใน สปป.ลาว เช่นเดียวกับภาคการผลิตที่นักลงทุนไทยสามารถใช้โอกาสนี้ในการขยายฐานการผลิตเข้าไปใน
สปป.ลาว โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษต่างๆ ตามแนวรถไฟ เพื่อรองรับกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะเพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นช่องทาง
ในการเจาะเข้าสู่ตลาดจีน นอกจากนี้ ในระยะถัดไป รถไฟความเร็วสูงสายนี้จะเชื่อมต่อมายังไทยและสามารถเชื่อมโยงกับรถไฟความเร็วสูง
ภายใต้โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวจะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลาง
ทางการค้า การลงทุน และการขนส่งที่สำคัญเชื่อมกลุ่มประเทศ CLMV และอาเซียนเข้าไว้ด้วยกันในอนาคต
 
  Disclaimer : ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น
โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ ไม่ว่าโดยทางใด