นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ส่งมอบโคมตราในนาม EXIM BANK
เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา โดยเสด็จพระราชกุศล เนื่องในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา พุทธศักราช 2568 ณ
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
             นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นําคณะผู้บริหารและพนักงาน EXIM BANK ร่วมถวายพระพรชัยมงคลเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และลงนามถวายพระพร เนื่องในโอกาสมหามงคลวันฉัตรมงคล พุทธศักราช 2568 วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ณ EXIM BANK สํานักงานใหญ่
 
             นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นำคณะผู้บริหาร EXIM BANK บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
             นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นำคณะผู้บริหาร EXIM BANK บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) เมื่อเร็ว ๆ นี้  
            นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ร่วมเป็น
สักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่าง EXIM BANK และธนาคารเพื่อการลงทุน
และพัฒนาแห่งประเทศเวียดนาม (The Joint Stock Commercial Bank for Investment and Development of Vietnam : BIDV)
โดยมีนายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนายเล หง็อก ลัม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 
BIDV เป็นผู้ลงนาม และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมแสดงความยินดี ในโอกาสนายกรัฐมนตรีไทย
เยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับและขยายแนวทางความร่วมมือในการเสริมสร้างโอกาสและขยาย
การค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับเวียดนามเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม
เมื่อเร็ว ๆ นี้

          นับเป็นการขยายความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK และ BIDV สืบเนื่องจากการลงนามความร่วมมือระหว่างกันเมื่อปี 2562
โดยครั้งนี้ ทั้งสองธนาคารจะใช้เครื่องมือทางการเงินสีเขียว (Green Finance) และการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance)
เพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนไทย-เวียดนาม สอดคล้องกับนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจ
สีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) และการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล
กิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG) ในฐานะที่ EXIM BANK เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้
การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังที่มีภารกิจส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยขยายธุรกิจการค้าและการลงทุนเข้าไปยังตลาด
ต่างประเทศ พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่ความยั่งยืนผ่านความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาค
เอกชนในระดับภูมิภาคและระดับโลก

          ทั้งนี้ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา GDP เวียดนามโตเฉลี่ย 6-7% ต่อปี ข้อมูลจากรายงานเศรษฐกิจเวียดนามประจำปี 2567 ระบุว่า เวียดนามมีอัตราการเติบโตของ GDP อยู่ที่ 7.09% สูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากภาคบริการ (เติบโต 7.38%) อุตสาหกรรมและก่อสร้าง (เติบโต 8.24%) และภาคเกษตรกรรม (เติบโต 3.27%) นอกจากนี้ GDP ต่อหัวของเวียดนามยังเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 4,700 ดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและฐานการผลิตในระดับภูมิภาค ความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK และ BIDV จะช่วยให้ธุรกิจไทยขยายเข้าสู่ตลาดเวียดนามได้มากขึ้น ต่อยอดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

          ในโอกาสนี้ รักษาการกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พร้อมด้วยผู้บริหาร EXIM BANK เข้าร่วมงานสัมมนาทางธุรกิจไทย-เวียดนาม (Thailand-Vietnam Business Forum) จัดโดยหอการค้าไทย เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างไทย-เวียดนาม ตลอดจนสร้างเครือข่ายกับทางธุรกิจ สอดรับกับบทบาท EXIM BANK ในการผลักดันผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดต่างประเทศ โดยมีผู้ประกอบการและผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐเข้าร่วมงาน ณ โรงแรมเมเลีย กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
            นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนไทย จัดโดยหอการค้าไทย เพื่อหารือเชิงนโยบายและรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับโอกาสและความท้าทายในการดำเนินธุรกิจในเวียดนาม โดยมีนางเศรษฐสุดา ตุลยธัญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุม โดย EXIM BANK ได้แสดงจุดยืนในการสนับสนุนภาคธุรกิจไทยให้สามารถขยายการค้าและการลงทุนเข้าสู่ตลาดเวียดนามได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน พร้อมขยายความร่วมมือด้านการเงินกับธนาคารพันธมิตรในเวียดนามเพื่อยกระดับการพัฒนาของทั้งสองประเทศและภูมิภาคอาเซียน ซึ่งปัจจุบัน EXIM BANK มีมูลค่าความร่วมมือกับธนาคารท้องถิ่นในเวียดนามรวมกว่า 152 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และให้การสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในเวียดนามเป็นมูลค่ากว่า 36,000 ล้านบาท โดยเฉพาะธุรกิจในกลุ่มพลังงานทดแทนประมาณ 4,000 ล้านบาท ณ โรงแรมเมเลีย กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ทั้งนี้ EXIM BANK ได้เปิดดำเนินงานสำนักงานผู้แทนในนครโฮจิมินห์อย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2565 เพื่อทำหน้าที่เป็นกลไกสนับสนุนด้านข้อมูลเชิงลึก เครือข่ายธุรกิจ และเครื่องมือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการไทยในเวียดนาม  
            นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “MOF Journey 150 ปี เส้นทางการคลังไทย” โอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงการคลัง ครบรอบ 150 ปี และเยี่ยมชมบูท EXIM BANK โดยมีนางสาวศุกร์ศิริ อภิญญานุวัฒน์ รองปลัดกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการ EXIM BANK นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล กรรมการ EXIM BANK นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงการคลังและ EXIM BANK ให้การต้อนรับ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้

          EXIM BANK ร่วมออกบูทในงาน “MOF Journey 150 ปี เส้นทางการคลังไทย” จัดเต็ม บริการทางการเงิน พร้อมโปรโมชันพิเศษเพื่อผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะธุรกิจที่มีกระบวนการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน เสริมสร้างองค์กรสีขาวให้เติบโตเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน พร้อมเปิดตัวคลินิกผู้ประกอบการ (EXIM Export Clinic) ให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ ทั้งผู้นำเข้าและส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ บรรเทาผลกระทบจากนโยบายทรัมป์ 2.0 ต่อผู้ประกอบการไทย นอกจากนี้ บริษัท สยามออร์แกนิคฟู้ดโปรดักส์ จำกัด ลูกค้า EXIM BANK ยังร่วมออกบูทนำเสนอตัวอย่างสินค้าขนมขบเคี้ยวและซีเรียลคุณภาพส่งออก แบรนด์ “ZANTUN & VICTOR” และ “NOBI NOBI” ระหว่างวันที่ 1-3 พฤษภาคม 2568 ณ ฮอลล์ 3-4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
 
            ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีและปาฐกถาพิเศษในงาน “พาแบงก์รัฐ มาช่วยราษฎร์ จังหวัดขอนแก่น” โดยมี ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ และนายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พร้อมด้วยนายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) และนายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) นำทีมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สถาบันการเงินของรัฐ เข้าร่วมเสริมสร้างความรู้ทางการเงิน โอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินของสถาบันการเงินของรัฐ เช่น โครงการค้ำประกันและมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในจังหวัดขอนแก่นและพื้นที่ใกล้เคียง และการเปิด EXIM Export Clinic ตรวจสุขภาพทางการเงิน และให้คำปรึกษาด้านการส่งออก รวมทั้งช่วยเหลือผู้ประกอบการ ทั้งผู้นำเข้าและส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ ในโอกาสนี้ EXIM BANK ได้ส่งมอบสินเชื่อ EXIM BANK ให้แก่บริษัท สยามพัฒน์ อิมปอร์ตเอ็กซ์ปอร์ต จำกัด และบริษัท เอสพีออโต้โปรดักส์ จำกัด ตลอดจนผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจส่งออก โดยเฉพาะธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เมื่อเร็ว ๆ นี้  
            ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานบรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร และประธานจัดงานมหกรรมการเงิน (Money Expo) เยี่ยมชมบูท EXIM BANK ในงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ ครั้งที่ 25 (Money Expo 2025 Bangkok) พร้อมทั้งเลือกชมสินค้าคุณภาพส่งออกของลูกค้า EXIM BANK ที่มาร่วมออกบูทจำหน่ายสินค้าภายในบูท โดยมีนางสาวดรัสวันต์ ชูวงษ์ และนายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ให้การต้อนรับ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อเร็ว ๆ นี้  
            นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง และนายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานบรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร และประธานจัดงานมหกรรมการเงิน (Money Expo) เยี่ยมชมบูท EXIM BANK ในงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ ครั้งที่ 25 (Money Expo 2025 Bangkok) โดยมีนางสาวดรัสวันต์ ชูวงษ์ และนายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ให้การต้อนรับ ณ บูท EXIM BANK (บูท G5) ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อเร็ว ๆ นี้

          EXIM BANK ร่วมออกบูทภายใต้แนวคิด “Empowering Toward a Sustainable Wealth เสริมพลัง เพื่อสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน” ในงาน Money Expo 2025 Bangkok มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อสร้าง “Resilient Wealth ความมั่งคั่งแบบยั่งยืน” ระหว่างวันที่ 15-18 พฤษภาคม 2568 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สอดคล้องกับบทบาทของ EXIM BANK สนับสนุนผู้ประกอบการไทยขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน ดำเนินกิจการอย่างโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล โดย EXIM BANK จัดโปรโมชันพิเศษเพื่อผู้ประกอบการ อาทิ 
          • สินเชื่อ Green X Transformation สินเชื่อระยะยาวเพื่อยกระดับภาคการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพิ่มความสามารถในการแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืน วงเงินกู้สูงสุด 100 ล้านบาทต่อราย สำหรับผู้ประกอบการ SMEs อัตราดอกเบี้ยพิเศษ SMEs เริ่มต้นเพียง 3.50% ต่อปีคงที่ 2 ปีแรก ระยะเวลาผ่อนชำระคืนสูงสุด 10 ปี 
          • สินเชื่อเอ็กซิมดอกเบี้ยต่ำ Soft Loan GSB Boost Up สินเชื่อระยะยาวสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อเสริมสภาพคล่องในกิจการ วงเงินกู้สูงสุด 40 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 3.25% ต่อปีคงที่ 2 ปีแรก ระยะเวลาผ่อนชำระคืนสูงสุด 5 ปี
          • บริการประกันการส่งออก EXIM for Small Biz ป้องกันความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อต่างประเทศ วงเงินคุ้มครองสูงสุด 2 ล้านบาท พร้อมสิทธิประโยชน์ในงาน รับฟรี! ความคุ้มครอง 300,000 บาทสำหรับผู้ซื้อรายแรก (ค่าเบี้ยประกัน 1,800 บาท)

          EXIM BANK เปิด “EXIM Export Clinic” ให้คำปรึกษาเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ทั้งผู้นำเข้าและส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ รวมทั้งให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับนโยบายภาษีแบบตอบโต้ ตลอดจนผล
กระทบและแนวทางการบริหารจัดการธุรกิจ นอกจากนี้ EXIM BANK จัดให้มีพื้นที่ออกบูทจำหน่ายสินค้าคุณภาพส่งออกในราคาย่อมเยา เพื่อสร้างโอกาสและเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นลูกค้าของธนาคาร
 
            นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า EXIM BANK ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
Prime Rate เหลือ 6.15% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ใช้สำหรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้า SMEs เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้า
รายย่อยชั้นดีหรือ MRR ของธนาคารพาณิชย์ นับเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบ มีผลตั้งแต่วันที่ 13
พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางความผันผวนในตลาดการเงินโลกที่ปรับสูงขึ้น
จากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าประเทศเศรษฐกิจหลักและแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย รวมทั้งช่วยกระตุ้น
การเติบโตของภาคธุรกิจไทย

          นอกเหนือจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate เป็นครั้งที่ 5
ติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2567 EXIM BANK ยังมอบสิทธิประโยชน์แก่ลูกค้าชั้นดีที่ร่วมเติบโตมากับ EXIM BANK ด้วยส่วนลดอัตรา
ดอกเบี้ยพิเศษถึง 1.00% ต่อปี เริ่มต้น 3.10% ต่อปี สำหรับลูกค้าที่แสดงความจำนงภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 และเบิกกู้
ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม 2568 พร้อมกันนั้น EXIM BANK ยังคงดำเนินโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” อย่างต่อเนื่อง เพื่อ
ช่วยแบ่งเบาภาระหนี้และต้นทุนทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ให้สามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ EXIM BANK ได้จัดตั้ง Export Clinic เพื่อให้คำปรึกษาและข้อมูลแก่ผู้ประกอบการไทยที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ
Reciprocal Tariffs โดยสอดคล้องกับพันธกิจของ EXIM BANK ในการส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจการค้าและการลงทุนที่เป็นประโยชน์
ต่อการพัฒนาประเทศให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน มีสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจ สามารถปรับตัวรับมือกับปัจจัย
ท้าทายและแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลกอย่างยั่งยืน
 
            นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK แถลงผลการดำเนินงานของ EXIM BANK 
ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง โดย EXIM BANK เดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้สามารถ
แข่งขันได้บนเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและความท้าทายจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ โดยเฉพาะ
ผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนการค้าและกฎระเบียบระหว่างประเทศที่เข้มงวดมากขึ้น EXIM BANK ได้ออกมาตรการ
เพื่อบรรเทาผลกระทบจากนโยบายภาษีแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ เช่น จัดตั้งคลินิกผู้ประกอบการ (Export Clinic) ให้คำปรึกษาและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และแนวทางการบริหารจัดการธุรกิจ รวมทั้งสนับสนุนผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ให้ขยาย
ตลาดไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ

          ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2568 EXIM BANK มีวงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 10,961 ล้านบาท และมีสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพัน 189,928 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 9.03% ในจำนวนนี้ เป็นสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันเพื่อการลงทุน 137,636 ล้านบาทหรือคิดเป็นสัดส่วน 72.47% ของสินเชื่อรวมทั้งหมด โดยเป็นสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันในโครงการระหว่างประเทศ 44,503 ล้านบาท สะท้อนบทบาทด้านการส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชนไทยในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เมื่อจำแนกเป็นรายตลาดที่สำคัญ EXIM BANK ยังสนับสนุนธุรกิจไทยให้ขยายไปกลุ่มประเทศ CLMV และตลาดใหม่ (New Frontiers) ที่มีศักยภาพ โดยมีสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันในกลุ่ม CLMV และ New Frontiers จำนวน 39,654 ล้านบาท

          EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังยังคงดำเนินบทบาทธนาคารเพื่อ
การพัฒนาภายใต้หลักการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG)
 ด้วยการส่งเสริม
และสนับสนุนโครงการ/กิจกรรมของผู้ประกอบการไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Export Supply Chain)
ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย อาทิ ผลิตภัณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น สินเชื่อระยะยาว Sustainability Linked Loan ที่สนับสนุน
การดำเนินธุรกิจที่มีการกำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืน สินเชื่อ EXIM Green Goal เพื่อผู้ประกอบการทุกขนาดที่จะต้องการ
ขยายธุรกิจหรือปรับปรุงไปสู่ความยั่งยืน สินเชื่อ EXIM Green Start สำหรับ SMEs เป็นต้น ส่งผลให้ EXIM BANK มีสินเชื่อ
คงค้างและภาระผูกพันเพื่อความยั่งยืนสูงถึง 77,387 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 40.75%

          ด้านสังคม EXIM BANK เดินหน้าช่วยเหลือและเป็นที่พึ่งของผู้ประกอบการไทยในทุกห้วงเวลา ทั้งภาวะวิกฤตและช่วงฟื้นตัว โดยออกมาตรการช่วยเหลือทางการเงินแบบเฉพาะกลุ่ม อาทิ มาตรการช่วยเหลือสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs ที่ประสงค์ปรับปรุงโครงสร้างหนี้เชิงป้องกัน (มาตรการ Pre-emptive) เพื่อให้ลูกหนี้ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารอย่างตรงจุดและทันท่วงที และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs ในกลุ่มเปราะบางที่มีหนี้วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาทให้สามารถ “ปิดหนี้ได้ไว ไปต่อได้เร็ว” ตามโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” มาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์” ด้วยภาระดอกเบี้ยที่ลดลง รวมถึงสนับสนุนเงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องและจัดการความเสี่ยงได้อย่างครบวงจร

          อีกบริการสำคัญที่ EXIM BANK เป็นธนาคารแห่งเดียวในไทยที่ให้บริการโดยตรง คือ บริการประกันการส่งออก
และการลงทุน
 เพื่อช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงและบรรเทาผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทาง
เศรษฐกิจและความมั่นคงในภูมิภาคต่าง ๆ โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2568 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจสะสมบริการประกัน
เท่ากับ 53,271 ล้านบาท
 ทั้งนี้ จากการขยายบทบาททั้งด้านสินเชื่อและประกันของ EXIM BANK ในการเป็นเสาหลักสนับสนุน
ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยทุกขนาด ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2568 EXIM BANK มีจำนวนลูกค้า 5,201 ราย ในจำนวนนี้
เป็นลูกค้า SMEs มากถึง 78.97% 
อีกทั้งได้เติมความรู้และเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ ซึ่งมียอดสะสมถึง 22,493 ราย ผ่านการ
จัดหลักสูตรอบรม กิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ และให้คำปรึกษาทางการเงิน สะท้อนการอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs
เพื่อให้แข่งขันได้ในเวทีการค้าโลกที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

          ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี EXIM BANK ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทางการเงินเพื่อความยั่งยืน โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2568 EXIM BANK มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 6,822 ล้านบาท คิดเป็น NPL Ratio ที่ 3.83% และมีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) จำนวน 17,545 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio)
257.18%
 เพิ่มเกราะป้องกันความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและปัญหาการตอบโต้ทางการค้า ส่งผลให้ EXIM 
BANK มีกำไรสุทธิ 427 ล้านบาท
 สูงกว่าที่กำหนดไว้ในแผนธุรกิจ และสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 223.20%

          ท่ามกลางความท้าทายที่ถาโถมเข้ามาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568 EXIM BANK ยังคงอยู่เคียงข้างและช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย
ให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโลกได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ที่สอดรับกับนโยบาย
รัฐและมาตรฐานสากล ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ เพื่อยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการและขับเคลื่อน
ประเทศไทยไปสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป
 
            นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า EXIM BANK และองค์กรเจรจา
ระหว่างประเทศว่าด้วยปาล์มน้ำมันยั่งยืน (Roundtable on Sustainable Palm Oil : RSPO) ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อสนับสนุนความยั่งยืนในภาคธุรกิจปาล์มน้ำมันของไทย พร้อมทั้งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยยกระดับการดำเนินธุรกิจ
สู่มาตรฐานสากลและแข่งขันได้อย่างยั่งยืนในตลาดโลก โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เพื่อสนับสนุนระบบ
การตรวจสอบแบบย้อนกลับ (Traceability) อาทิ การลดการตัดไม้ทำลายป่า (Deforestation-free) การลดการสูญเสียความ
หลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Loss) รวมถึงการยกระดับด้านสิทธิมนุษยชน (Human Rights) ของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม เพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือของสินค้าเกษตรไทย เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดการค้าโลก โดยเฉพาะการรุกตลาดที่มีข้อกำหนดเข้มงวดด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันระยะยาวให้กับ
อุตสาหกรรมการเกษตรไทย ในฐานะที่ EXIM BANK เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง
ที่มีพันธกิจในการขับเคลื่อนการค้าและการลงทุนที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ และ RSPO เป็นองค์กรกำหนดมาตรฐาน
ความยั่งยืนปาล์มน้ำมันระดับนานาชาติ

          ความร่วมมือในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันซึ่งเป็นหนึ่งในภาคเศรษฐกิจสำคัญของไทยให้มุ่งสู่
มาตรฐานสากลด้านความยั่งยืน ช่วยสร้างการจ้างงานและนำไปสู่รายได้ทั้งในภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม ตั้งแต่ขั้นตอนการ
เพาะปลูก เก็บเกี่ยว แปรรูป และส่งออกตลอดต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและ
การค้าโลก ซึ่งเป็นปัจจัยเร่งให้ภาคธุรกิจต้องดำเนินงานโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี
(Environmental, Social, and Governance : ESG) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและมาตรฐานการค้าระหว่างประเทศ
ด้านสิ่งแวดล้อมในโลกยุคใหม่

          “การปรับตัวสู่ความยั่งยืนจะทำให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ ที่ยังมีอีกมากในโลกการค้ายุคใหม่ ท่ามกลาง
ข้อจำกัดด้านกฎระเบียบและมาตรการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มมากขึ้น EXIM BANK จึงจับมือกับ RSPO เพื่อขยายความร่วมมือระหว่าง
ภาครัฐและองค์กรระดับโลกภายใต้กรอบ ISEAL Alliance ที่สนับสนุนมาตรฐานความยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรม ช่วยเสริมสร้างระบบ
นิเวศทางเศรษฐกิจที่โปร่งใส มีความรับผิดชอบ รองรับเทรนด์การค้าโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น” นายบัณฑิตกล่าว

          ทั้งนี้ นายอิทธิพล เลิศศักดิ์ธนกุล รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ได้ร่วมเสวนาหัวข้อ “ความรับผิดชอบร่วม-ยกระดับปาล์มน้ำมันไทยสู่ความสำเร็จในตลาดโลก” ให้แก่สมาชิก RSPO ในฐานะตัวแทนจากภาคการเงินในการส่งเสริมความยั่งยืนของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันไทย และแนวทางการสร้างความรับผิดชอบร่วมกันเพื่อให้เกิดความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยมีนายมูฮัมหมัด ชาซาลีย์ Head of Certification ของ RSPO ให้การต้อนรับ ณ โรงแรมศิวาเทล กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
             นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมบรรยายพิเศษให้กับวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 67 หัวข้อ “The Climate Challenges : The Rise of Climate Tech” โดยเน้นถึงความสำคัญของ Climate Finance ในการสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อประยุกต์ใช้แก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น การสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด การปลูกป่า การทำเกษตรกรรมและอาหารรูปแบบใหม่ ณ วปอ. เมื่อเร็ว ๆ นี้

           ทั้งนี้ EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง พร้อมทำหน้าที่ธนาคารเพื่อการพัฒนา สนับสนุนเงินทุนและการพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจเพื่อการบรรลุเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) โดยทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใน Scope ที่ 1-2-3 (การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง ทางอ้อมที่เกิดจากการใช้พลังงาน และทางอ้อมอื่น ๆ จากการดำเนินงานขององค์กร) เพื่อขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
 
             นางวรางคณา วงศ์ข้าหลวง รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เข้าร่วมการประชุมกลุ่มความร่วมมือองค์กรรับประกันภาครัฐในเอเชีย-แปซิฟิก (Regional Cooperation Group : RCG) ครั้งที่ 77 จัดโดยองค์กรรับประกันแห่งประเทศญี่ปุ่น (Nippon Export and Investment Insurance : NEXI) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการดำเนินงานด้านประกันการส่งออกและการลงทุนระหว่างประเทศสมาชิก ตลอดจนแนวทางการปฏิบัติงานและความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการค้าและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ณ เมืองดูบรอฟนิก ประเทศโครเอเชีย เมื่อเร็ว ๆ นี้  
             นางวรางคณา วงศ์ข้าหลวง รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นำผู้บริหาร EXIM BANK เข้าร่วมการประชุมกลุ่มความร่วมมือ
องค์กรรับประกันชั้นนำของโลก (Berne Union Spring Meeting 2025) ซึ่งมีผู้แทนองค์กรรับประกันภาครัฐและภาคเอกชน 270 คน
จาก 91 แห่งทั่วโลกเข้าร่วมการประชุม เพื่อหารือแนวทางสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารและแลกเปลี่ยนประสบการณ์
การดำเนินงานและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจในบริบทการค้าโลกใหม่ ส่งผลให้ประเทศสมาชิกต้องเร่งพัฒนาบริการ
ประกันการส่งออกและลงทุนโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้า ท่ามกลางสถานการณ์
ความเสี่ยงทางการค้าระหว่างที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้มูลค่าการประกันเพิ่มสูงตามไปด้วย ขณะที่มูลค่าการค้าของสมาชิก Berne Union
ในปี 2567 แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 3.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่ามูลค่าการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย-
แปซิฟิก ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญทางการค้า จะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 18.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 เพิ่มขึ้น 5.1% จากปีก่อน ท่ามกลางปัจจัยท้าทายและโอกาสทางธุรกิจที่ยังมีอยู่อีกมาก ระหว่างวันที่ 12-15 พฤษภาคม 2568 ณ เมืองดูบรอฟนิก
ประเทศโครเอเชีย
 
             นางวรางคณา วงศ์ข้าหลวง รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พบปะทวิภาคีกับผู้บริหารองค์กรรับประกันระดับโลก ประกอบด้วย องค์กรรับประกันแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (China Export & Credit Insurance Corporation : SINOSURE) บริษัทประกันสินเชื่อเพื่อการส่งออกของฮ่องกง (Hong Kong Export Credit Insurance Corporation : HKECIC) องค์กรรับประกันแห่งประเทศญี่ปุ่น (Nippon Export and Investment Insurance : NEXI) องค์กรประกันเพื่อการส่งออกเกาหลีใต้ (Korea Trade Insurance Corporation : K-SURE) และการเงินเพื่อการส่งออกแห่งสหราชอาณาจักร (UK Export Finance : UKEF) เพื่อหารือแนวทางขยายความร่วมมือด้านการประกันการส่งออกและลงทุน รวมถึงกิจกรรมทางการตลาด เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยขยายการค้าและการลงทุนในภูมิภาคต่าง ๆ อย่างมั่นใจทั่วโลก ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมกลุ่มความร่วมมือองค์กรรับประกันชั้นนำของโลก (Berne Union Spring Meeting 2025) ณ เมืองดูบรอฟนิก ประเทศโครเอเชีย เมื่อเร็ว ๆ นี้  
             นางวรางคณา วงศ์ข้าหลวง รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เข้าร่วมพิธีเปิดงานแสดงสินค้า Mini Thailand Week 2025 พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทีมประเทศไทย และให้คำปรึกษาทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการไทยและ สปป.ลาว ในงาน Mini Thailand Week 2025 ซึ่งจัดโดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เวียงจันทน์ เพื่อกระตุ้นการรับรู้และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคใน สปป.ลาว ต่อสินค้าส่งออกของไทยที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมออกบูทแสดงสินค้าจำนวน 45 ราย ระหว่างวันที่ 30 เมษายน-4 พฤษภาคม 2568 ณ ลานกิจกรรมธาตุหลวง เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว โดยมีนางสาวมรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ เป็นประธานในพิธีเปิด ณ เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว เมื่อเร็ว ๆ นี้  
             นางสาวดรัสวันต์ ชูวงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร อุปนายกและเลขาธิการสมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีน และรองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน และ ผศ.ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมเปิดงานสัมมนา “China Connext” และพิธีลงนามกรอบความร่วมมือ “โครงการความร่วมมือด้านวิชาการ เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดจีน” ระหว่าง EXIM BANK กับสมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีน หอการค้าไทยในจีน และศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อจัดทำหลักสูตร China Wealth รุ่นที่ 2 พัฒนาผู้ประกอบการและผู้บริหารระดับสูงให้มีศักยภาพและความพร้อมที่จะขยายการค้าและการลงทุนสู่ตลาดจีน ยกระดับทักษะในการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ บริหารจัดการสภาพคล่อง และเจรจาธุรกิจได้โดยสอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้

           ในโอกาสนี้ ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมเสวนาหัวข้อ “China’s Dynamic Landscape: Adapting to Change in Export and Investment” เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทิศทางการค้า การลงทุน และกลยุทธ์การปรับตัว ของผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันและขยายธุรกิจได้อย่างยั่งยืน โดย EXIM BANK มีบริการให้คำปรึกษา พร้อมเงินทุนและเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศแก่ผู้ประกอบการไทยในทุกขนาดธุรกิจ
 
            ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมเป็นวิทยากรและเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของ EXIM BANK ในฐานะองค์กรที่ได้รับรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศที่มีความโดดเด่นด้านการสร้างประโยชน์ให้สังคม (Thailand Quality Class Plus : Societal Contribution) ประจำปี 2567 ในงาน “TQA Winner Conference and International Quality Innovation Award Ceremony 2024” โดย EXIM BANK ยึดมั่นในวิสัยทัศน์สู่ความยั่งยืนและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน จึงนำเอากรอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับการบริหารจัดการองค์กร มุ่งดำเนินพันธกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจของผู้ประกอบการไทยให้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environment, Social, and Governance : ESG) มากยิ่งขึ้น นำไปสู่การพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจที่สอดรับกับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว EXIM BANK จึงออกแบบและพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน (Greenovations) ในรูปแบบ Green Bonds, Blue Bonds และ White Bonds เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยปรับตัวทางธุรกิจสู่ความยั่งยืนและแข่งขันได้มากขึ้นในตลาดการค้าโลกยุคใหม่ ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติของประเทศไทยและโลกโดยรวม ณ โรงแรมอมารี กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
            ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (สวพส.) เพื่อศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการกำกับการปฏิบัติงาน การดำเนินงานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กระบวนการตรวจสอบภายใน การตรวจสอบการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG) ตลอดจนการเป็นองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนและองค์กรคุณธรรมต้นแบบ ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
            นางสาวดรัสวันต์ ชูวงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นางนุจรี ภักดีเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ibank) นางสาวยุวภา ใจบุญ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต สถาบันอาหาร (NFI) และนายคทาวุธ
เลาะหมุด หัวหน้างานต่างประเทศและประชาสัมพันธ์ ฝ่ายกิจการฮาลาล สำนักคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (CICOT) ร่วมเปิดงานสัมมนาโครงการ Halal Export Champion 2025 : Grow and Scale Up Halal Ecosystem ซึ่งเป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรศาสนา และองค์กรการศึกษา รวม 15 หน่วยงาน ในโครงการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลสู่การส่งออก เพื่อพัฒนา SMEs ให้เข้าสู่ตลาดการค้าโลกได้อย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามมาตรฐานฮาลาล ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวมุสลิมต่อสินค้าฮาลาลไทย ผ่านการเติมความรู้และให้คำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับการขอรับรองเครื่องหมายฮาลาลตามข้อกำหนดสากล การปรับปรุงกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับหลักศาสนาอิสลาม รวมทั้งการส่งออกสินค้าฮาลาลไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ อาทิ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย และอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายสินค้าฮาลาลจากต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาสในการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้า เพิ่มยอดขาย และสร้างเครือข่ายพันธมิตรในระดับสากล ตลอดจนการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ ขับเคลื่อนการเติบโตของภาคส่งออกและเศรษฐกิจไทย ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
            นางสาวดรัสวันต์ ชูวงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ดร.ธันยพร กริชติทายาวุธ ผู้อำนวยการสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย ผศ.ดร.ธันยมัย เจียรกุล ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม คณะบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น และนายสินธ์โต วาณิชย์กิตติ์ หัวหน้าที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจ SMEs เพื่อความพร้อมในอนาคต บริษัท แบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ จำกัด ร่วมเปิดงานสัมมนาโครงการ “ESG Exporter Acceleration Program 2025” จัดโดย EXIM BANK ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร เพื่อพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้ผู้ประกอบการไทยสามารถปรับตัวและดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG) สร้าง Green Export Supply Chain สู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดย EXIM BANK พร้อมสนับสนุนเงินทุนและบริการประกันการส่งออก คุ้มครองความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
   
            นายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรมอบรมเชิงลึกและคัดเลือกผู้ประกอบการเข้ารับการอบรมพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ “SMEs Export Studio 2025 : Brand DNA” จัดโดย EXIM BANK ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และกรมทรัพย์สินทางปัญญา (DIP) กระทรวงพาณิชย์ ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมี
ดร.รัชนีวรรณ กุลจันทร์ ผู้อำนวยการ ห้องปฏิบัติการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย วว. นางสาวพีชยา จิระธรรมกิจกุล
ผู้จัดการ ฝ่ายสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมภาคเอกชน (ITAP) สวทช. และนายภูสิษฐ์ จาตุรงคกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์
เข้าร่วมงาน ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการสร้างแบรนด์และการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อการส่งออกด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ตอบโจทย์ตลาดโลกที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น มีผู้ประกอบการผ่านการคัดเลือก 20 บริษัท จากจำนวน
ผู้สมัครกว่า 100 บริษัท ได้รับการสนับสนุนพัฒนาบรรจุภัณฑ์มูลค่าสูงสุด 50,000 บาทต่อบริษัท ควบคู่กับการสนับสนุนด้านเงินทุนจาก EXIM BANK พร้อมเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศเพื่อเสริมสภาพคล่องและเสริมสร้างโอกาส SMEs ไทยในเวทีการค้าโลก
 
            นายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา จำนวนรวม 30 หน่วยงาน ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ไทยที่เป็นสมาชิกหอการค้าไทยและเครือข่ายหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ภายใต้โครงการ “Big Brother” เพื่อยกระดับธุรกิจและเตรียมความพร้อมในการขยายโอกาสสู่ตลาดการค้าโลกได้อย่างยั่งยืน โดย EXIM BANK เป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญที่พร้อมเติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุน รวมทั้งบริการประกันการส่งออก คุ้มครองความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้  
            นางเศรษฐสุดา ตุลยธัญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นำผู้บริหาร EXIM BANK เข้าพบนายเหงียน เวียด เกื่อง
รองกรรมการผู้จัดการ เวียดคอมแบงก์ (Vietcombank) เพื่อพบปะหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าการลงทุนและแนวโน้มเศรษฐกิจในอาเซียน เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีและขยายความร่วมมือสู่อนาคตโดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินร่วมกัน อาทิ เครื่องมือทางการเงินสีเขียว (Green Finance) เพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG) ของผู้ประกอบการไทยและเวียดนาม สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดเวียดนามเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เวียดคอมแบงก์เป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของเวียดนาม ถือหุ้นโดยรัฐบาลเวียดนามผ่านธนาคารกลางเวียดนามกว่า 74.8% มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเวียดนาม ณ สิ้นปี 2567 มูลค่าสินทรัพย์รวมราว 78.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติว่าเป็นธนาคารที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเวียดนาม ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
  EXIM BANK ร่วมยินดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ครบรอบ 83 ป  
            ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมแสดงความยินดีกับนางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ พร้อมมอบเงินสมทบกองทุนสวัสดิการกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ครบรอบ 83 ปี ณ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK ร่วมยินดีสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ครบรอบ 62 ป  
            ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมแสดงความยินดีกับ ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) พร้อมมอบเงินบริจาคสมทบทุนจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ และพัฒนาโรงพยาบาลคลองหลวง ในโอกาส วว. ครบรอบ 62 ปี ณ วว. เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK ร่วมยินดีโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา สพพ. ครบรอบ 20 ป  
            นายอิทธิพล เลิศศักดิ์ธนกุล รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมแสดงความยินดีกับนายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) พร้อมมอบเงินบริจาคสมทบกองทุนสวัสดิการภายใน สพพ. ในโอกาส สพพ. ครบรอบ 20 ปี ณ สำนักงาน สพพ. เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK ร่วมยินดีการท่าเรือแห่งประเทศไทย ครบรอบ 74 ป  
            นายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมแสดงความยินดีกับนายวีระยุทธ์ สว่างแจ้ง รองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ พร้อมมอบเงินบริจาคสมทบทุนโครงการเงินทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ สภากาชาดไทย ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา กทท. ครบรอบ 74 ปี ณ สำนักงาน กทท. เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK ร่วมยินดีกรมธนารักษ์ ครบรอบ 92 ป  
            นางเศรษฐสุดา ตุลยธัญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมแสดงความยินดีกับนายสมมาตร มณีหยัน รองอธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง พร้อมมอบเงินบริจาคสมทบกองทุนสวัสดิการกรมธนารักษ์ ในโอกาสวันสถาปนากรมธนารักษ์ ครบรอบ 92 ปี ณ กรมธนารักษ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้  
  EXIM BANK ยินดีสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี ครบรอบ 11 ปี  
          นางเศรษฐสุดา ตุลยธัญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมแสดงความยินดีกับนายศิริ บุญพิทิกษ์เกศ กรรมการ
ผู้จัดการใหญ่ สถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี พร้อมมอบเงินบริจาคสมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี ในโอกาสสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี ครบรอบ 11 ปี ณ สถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี เมื่อเร็ว ๆ นี้