Vientiane New World…
เปิดโลกใบใหม่เพื่อการลงทุนใน สปป.ลาว
 
   
 

         ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติ อาทิ เวียดนาม จีน ไทย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และอินเดียให้ความ
สนใจลงทุนใน สปป.ลาว มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยเกื้อหนุนจากกฎหมายส่งเสริมการลงทุนฉบับล่าสุด
ของ สปป.ลาว ปี 2552 ซึ่งมีความเป็นสากลมากขึ้น ประกอบกับสิทธิประโยชน์ที่นักลงทุนจะได้รับจากการที่
สปป.ลาว ได้เข้าเป็นสมาชิกลำดับล่าสุดขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) และการ
เข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ในปี 2558 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการ
ลงทุนใน สปป.ลาว ยังมีอุปสรรคอยู่บ้าง โดยเฉพาะระบบสาธารณูปโภคที่ยังไม่เพียงพอ ขณะที่ความต้องการ
สำนักงานที่อยู่อาศัยระดับบน และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น
ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในนครหลวงเวียงจันทน์ซึ่งถือเป็นใจกลางความเจริญ และศูนย์กลางการเจรจาติดต่อธุรกิจที่
สำคัญของ สปป.ลาว ดังนั้น รัฐบาล สปป.ลาว จึงอนุมัติให้มีการดำเนินโครงการ “Vientiane New World” ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างเขตเมืองใหม่ที่เกาะดอนจัน (Don Chan Island) ริมแม่น้ำโขงในนครหลวงเวียงจันทน์ โดยรวมเอาสิ่งอำนวยความสะดวกซึ่งมีความทันสมัยและเอื้อต่อการทำธุรกิจ รวมทั้งที่อยู่อาศัยระดับบนไว้ด้วยกัน อันจะส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญอีกแห่งหนึ่งของนครหลวงเวียงจันทน์ในอีก 6-8 ปีข้างหน้า
         รายละเอียดของโครงการ Vientiane New World
          การร่วมทุน : บริษัท CAMCE Investment (Lao) Co., Ltd. เป็นบริษัทที่เกิดจากการร่วมทุนของบริษัท CAMC Engineering Co., Ltd. ของจีน และบริษัท Krittaphong Group Co., Ltd. ของ สปป.ลาว
          มูลค่าการลงทุน : 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
          ขนาดพื้นที่ก่อสร้าง : 42 เฮกตาร์ (420,000 ตารางเมตร)
          สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ : ที่อยู่อาศัยตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง ผู้พักอาศัยสามารถชม
ทัศนียภาพของสายน้ำ และมองเห็นเขตแดนไทยในฝั่งตรงข้าม นอกจากนี้ ที่พักยังก่อสร้างในบริเวณใกล้เคียงกับ
แหล่งธุรกิจ แหล่งช้อปปิ้ง ศูนย์รวมความบันเทิง รวมทั้ง Chao Anouvong Park ซึ่งเป็นหนึ่งในสวนสาธารณะ
แห่งใหม่ของนครหลวงเวียงจันทน์ที่ประชาชนนิยมไปออกกำลังกาย ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงการก่อสร้างเฟสแรกแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างเฟสสองและเฟสสาม ดังนี้
            - เฟสแรก : ก่อสร้างบ้านพักหรู 50 หลัง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บริเวณทางใต้ของหาดดอนจัน
เพื่อต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมประชุม Asia-Europe Meeting (ASEM) ครั้งที่ 9 ในวันที่ 5-6 พฤศจิกายน 2555
            - เฟสสอง : ก่อสร้าง International Cultural and Tourist Center รายล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ศูนย์อาหาร ศูนย์รวมความบันเทิง และแหล่งท่องเที่ยว คาดว่าบริเวณดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในถนนคนเดินที่ดีที่สุดของ สปป.ลาว ใน
อนาคต นอกจากนี้ ยังมี International Residence Center ซึ่งจะเป็นย่านที่พักอาศัยที่ดีที่สุดของชาวต่างชาติที่พำนัก
อยู่ในนครหลวงเวียงจันทน์ โดยที่อยู่อาศัยจะออกแบบตามมาตรฐานสากลและอยู่ท่ามกลางร้านค้าและร้านอาหาร
ต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้อยู่อาศัย
            - เฟสสาม : ก่อสร้าง International Business Center ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของทั้งบริษัทท้องถิ่นและบริษัท
ต่างชาติ ประกอบด้วยอาคารประเภท Independent Headquarter Buildings, Small Office/ Home Offices
(SOHO) และ Landmark Office Buildings

         โอกาสของนักลงทุนไทย
          ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ โครงการ Vientiane New World เป็นโอกาสของ
ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของไทยในการเข้าไปลงทุนก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยกฎหมาย
ส่งเสริมการลงทุนของ สปป.ลาว อนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนมากกว่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถ
ถือครองที่ดินได้ 800 ตารางเมตร ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างอาคารที่พักอาศัยและสำนักงานในบริเวณ
เดียวกัน หรืออาจขยายการลงทุนเป็นการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ โครงการก่อสร้างดังกล่าว
ยังเป็นโอกาสในการขยายตลาดวัสดุก่อสร้างของผู้ประกอบการไทย อาทิ เหล็ก ปูนซีเมนต์ และอะลูมิเนียม เป็นต้น
          ธุรกิจท่องเที่ยว โครงการ Vientiane New World จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติระดับบนเดินทางเข้ามา
ท่องเที่ยวในนครหลวงเวียงจันทน์เพิ่มขึ้น ด้วยที่พักอาศัยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและได้มาตรฐานระดับ
สากล ประกอบกับศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้ง และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อาทิ วัดศรีสะเกษ
และพระธาตุหลวง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของนครหลวงเวียงจันทน์ จึงเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนไทยในการ
เข้าไปลงทุนประกอบธุรกิจท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร สปา ธุรกิจนำเที่ยว และรถเช่า
          ธุรกิจร้านอาหาร เพื่อรองรับนักลงทุนท้องถิ่นและนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่ง
ผู้ประกอบการสามารถหาซื้อวัตถุดิบเพื่อประกอบอาหารไทยได้ใน สปป.ลาว หรืออาจนำเข้าจากไทยได้อย่างสะดวก เนื่องจากมีพรมแดนติดกันทำให้การขนส่งใช้เวลาไม่นานนัก และค่าขนส่งถูกกว่าเมื่อเทียบกับประเทศที่อยู่ห่างไกลกัน นอกจากนี้ร้านอาหารไทยยังเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจอื่นๆ และช่วยเพิ่มมูลค่าส่งออกสินค้าไทยที่เกี่ยวเนื่อง เช่น วัตถุดิบ
สำหรับประกอบอาหาร เครื่องปรุงรส เครื่องครัว และเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เป็นต้น
          ธุรกิจค้าปลีก โครงการ Vientiane New World จะทำให้มีร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้นมากในนครหลวงเวียงจันทน์
ทั้งร้านค้าภายในศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่ทันสมัย และร้านค้าแบบ Stand-alone เนื่องจากบริเวณดังกล่าวจะมี
ประชาชนที่มีกำลังซื้อสูงพักอาศัยอยู่มาก จึงเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจค้าปลีกสินค้าประเภทต่างๆ (อาทิ เสื้อผ้า
สำเร็จรูป รองเท้า กระเป๋า และของใช้ในบ้าน) ธุรกิจตัวแทนกระจายสินค้า ธุรกิจบริการขนส่งสินค้า และธุรกิจบริการด้านโฆษณาและการตลาด เป็นต้น

         นอกจากโครงการ Vientiane New World แล้ว นครหลวงเวียงจันทน์ยังมีโครงการขนาดใหญ่อื่นๆ ที่กำลังอยู่
ระหว่างการก่อสร้าง อาทิ โครงการ Mega Mall (โครงการก่อสร้างแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่) และโครงการ Vientiane Complex (โครงการก่อสร้างโรงแรม 5 ดาวและศูนย์การค้า) ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สปป.ลาว กำลังมุ่งหน้า
สู่ความเป็นสากลอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมกับเปิดประตูการลงทุนเพื่อต้อนรับนักลงทุนที่หลั่งไหลมาจากทั่วทุกมุมโลก
จึงนับเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่นักลงทุนไทยไม่ควรมองข้าม

 
  Disclaimer : ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไป
เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่
รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด