พฤติกรรมการบริโภคและการทำธุรกิจ
ของชาวอินโดนีเซีย

 
 

         การเตรียมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ในปี 2558 ก่อให้เกิด
กระแสที่ผู้ประกอบการไทยเตรียมลงทุนและเจาะตลาดอาเซียนมากขึ้น โดยอินโดนีเซียถือเป็นตลาดหนึ่งที่ได้รับ
ความสนใจ เนื่องจากมีจุดเด่นจากจำนวนประชากรราว 250 ล้านคน มากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก จึงถือเป็น
โอกาสของการส่งออกไทย อีกทั้งยังสามารถเข้าลงทุนผลิตสินค้าเพื่อรองรับความต้องการใช้ภายในประเทศที่มีอยู่
อย่างมหาศาล นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังมีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะแร่ธรรมชาติ
ทำให้เป็นแหล่งลงทุนของอุตสาหกรรมเหมืองแร่ด้วยเช่นกัน

พฤติกรรมผู้บริโภคชาวอินโดนีเซีย...ส่วนหนึ่งคล้ายคลึงกับไทย
         การที่จะเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวอินโดนีเซียนั้นไม่ยากนัก เนื่องจากรูปแบบการดำเนินชีวิตของชาว
อินโดนีเซีย โดยเฉพาะในเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจ ส่วนหนึ่งมีความคล้ายคลึงกับคนไทยค่อนข้างมาก ซึ่งน่าจะ
เป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการไทยในการเจาะตลาดอินโดนีเซีย โดยปัจจัยหลักที่กำหนดพฤติกรรมของผู้บริโภค
ชาวอินโดนีเซีย ได้แก่
         ปัญหาการจราจร สภาพการจราจรที่ติดขัดในกรุงจาการ์ตาถือว่ารุนแรงติดอันดับ 10 เมืองที่มีปัญหาจราจร
รุนแรงที่สุดของโลกในปี 2555 จากการจัดอันดับของสำนักข่าว BBC ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ผู้บริโภคชาว
อินโดนีเซียต้องการความรวดเร็วและความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตประจำวัน เพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปกับการ
เดินทาง ดังนั้น ผู้บริโภคชาวอินโดนีเซียจึงคาดหวังกับการบริการที่รวดเร็ว นิยมช่องทางจำหน่ายสินค้าที่เข้าถึงได้
สะดวก เช่น ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน รวมไปถึงต้องการสินค้าอาหารที่สามารถรับประทานได้รวดเร็ว อาทิ อาหาร
พร้อมปรุงหรือพร้อมรับประทาน สังเกตได้จากการที่อินโดนีเซียเป็นตลาดผู้บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใหญ่อันดับ 2 ของโลก
         การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ผู้บริโภคชนชั้นกลางของอินโดนีเซียราวร้อยละ 22 สามารถเข้าถึงการใช้
อินเทอร์เน็ต และใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยราว 1.5 ชั่วโมงต่อวัน โดยร้อยละ 94 ของผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าว ติดต่อและ
สื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ ขณะที่ร้อยละ 89 มีบัญชี Facebook ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่แตกต่างจากตลาดผู้บริโภค
ของไทย อาทิ การค้นหาข้อมูลสินค้าบนสื่ออินเทอร์เน็ต ตลอดจนรับรู้ข้อมูลสินค้าต่างๆ จากสังคมออนไลน์ และใช้
เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า การทำตลาดบนสื่ออินเทอร์เน็ตและสังคมออนไลน์จึงมีความสำคัญ
ค่อนข้างมากในการทำการตลาดกับอินโดนีเซียในปัจจุบัน
         ความคุ้มค่าของราคาสินค้า ผู้บริโภคชาวอินโดนีเซียจัดได้ว่าเป็นผู้บริโภคที่เก่งในการเลือกซื้อสินค้า
ไม่ว่าจะเป็นการศึกษารายละเอียดสินค้าและจดจำราคาสินค้าประเภทต่างๆ โดยความคุ้มค่าของสินค้ากับราคาที่
ต้องจ่ายถือเป็นเกณฑ์สำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า พวกเขายินดีที่จะจ่ายเพิ่มขึ้นหากสินค้ามีคุณภาพสูงกว่า และยินดีที่จะเดินทางไปซื้อสินค้าไกลขึ้นหากสถานที่จำหน่ายสินค้ามีโปรโมชัน (Promotion) ทำให้สินค้าราคา
ถูกลง
         ความสำคัญของครอบครัว ชาวอินโดนีเซียให้ความสำคัญกับกิจกรรมในครอบครัวค่อนข้างมาก การใช้
เวลาไปห้างสรรพสินค้ากับครอบครัวเพื่อจับจ่ายใช้สอย และทำกิจกรรมบันเทิง เช่น ดูภาพยนตร์ รวมถึงการ
รับประทานอาหารนอกบ้าน ถือเป็นหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในวันหยุด ดังนั้น ช่องทางการจำหน่ายสินค้า
ผ่านห้างสรรพสินค้าจึงทวีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

วัฒนธรรมการดำเนินธุรกิจ...อิทธิพลจากประวัติศาสตร์ เชื้อชาติ และศาสนา
         ผู้ประกอบการที่ต้องการเจรจาธุรกิจหรือเข้าลงทุนในอินโดนีเซีย จำเป็นต้องเข้าใจวัฒนธรรมพื้นฐานเพราะมี
อิทธิพลต่อการดำเนินธุรกิจของชาวอินโดนีเซีย ดังนี้
         Dutch Legacy อินโดนีเซียตกเป็นอาณานิคมของฮอลแลนด์ (หรือเนเธอร์แลนด์) ถึงราว 300 ปี ทำให้
หลักความเสมอภาค (Egalitarian) เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นความเสมอภาคของ
บุคลากรภายในบริษัทหรือองค์กร รวมไปถึงความรู้สึกที่ว่าลูกค้าไม่ใช่ผู้ที่สำคัญสูงสุด ลูกค้าได้รับการเคารพแต่จะ
ไม่ใช่ฝ่ายที่ถูกทุกครั้งเสมอไป
         Chinese Domination นักธุรกิจชาวอินโดนีเซียเชื้อสายจีนซึ่งมีบทบาทในแวดวงธุรกิจการค้าใน
อินโดนีเซีย มีลักษณะการตัดสินใจที่รวดเร็ว มีความอดทน และมักดำเนินธุรกิจแบบกิจการครอบครัว ลักษณะต่างๆ
ดังกล่าวจึงสะท้อนอยู่ในวัฒนธรรมการดำเนินธุรกิจของอินโดนีเซีย
         Islam ประชากรกว่าร้อยละ 80 ของอินโดนีเซียนับถือศาสนาอิสลาม ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจได้รับอิทธิพล
ส่วนหนึ่งจากหลักศาสนา โดยจะให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลค่อนข้างมาก หรือที่เรียกว่า “Silaturahmi” ซึ่งแปลว่าไมตรีจิต ดังนั้น นักลงทุนที่ต้องการทำธุรกิจกับชาวอินโดนีเซียต้องเริ่มจากการสานสัมพันธ์
ระหว่างกัน ก่อนการเริ่มเจรจาธุรกิจ

         มีข้อน่าสังเกตว่าการรุกตลาดอินโดนีเซียยังมีอุปสรรคบางประการที่ผู้ประกอบการไทยควรเตรียมความพร้อม
ก่อนเข้าไปทำธุรกิจ อาทิ ภาวะการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรงในภาคธุรกิจทั้งจากผู้ประกอบการท้องถิ่นและนักลงทุน
ต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ มาเลเซีย จีน และญี่ปุ่น ซึ่งล้วนเข้าไปทำธุรกิจในอินโดนีเซียมาก่อนแล้วระยะหนึ่ง
นอกจากนี้ ระบบราชการของอินโดนีเซียค่อนข้างล่าช้า และการบังคับใช้กฎหมายยังไม่มีประสิทธิภาพมากนัก ประกอบกับกฎระเบียบด้านการลงทุนปรับเปลี่ยนบ่อย ตลอดจนมีการนำมาตรการที่มิใช่ภาษีมาใช้กับสินค้านำเข้า
ค่อนข้างมากในปัจจุบัน ทำให้การเข้าถึงตลาดอินโดนีเซียอาจไม่ราบรื่นเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณที่ดีจาก
รัฐบาลอินโดนีเซียในความพยายามแก้ปัญหาที่มีอยู่ อาทิ ปัญหาระบบราชการที่ล่าช้า และการบังคับใช้กฎหมายที่
ไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้มีแนวโน้มที่สภาพแวดล้อมทางธุรกิจในอินโดนีเซียจะเอื้อต่อการค้าและการลงทุนมากขึ้น
ในอนาคต

 
  Disclaimer : ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไป
เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่
รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด
 
  ภาพประกอบมาจาก www.google.com
การเผยแพร่ภาพนี้เพื่อแนะนำข้อมูลด้านการค้าและการลงทุนในต่างประเทศ