ตลาดบรูไน...มีอะไรน่าสนใจสำหรับสินค้าไทย  
 

         แม้ว่าบรูไนเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรน้อยที่สุดในอาเซียนเพียง 414,400 คน และมีพื้นที่เล็กเป็นอันดับ 2
ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ แต่บรูไนจัดเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีศักยภาพสูงด้านการค้าและเป็น
ตลาดที่สินค้าไทยมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ดังเห็นได้จากมูลค่าส่งออกของไทยไปบรูไนในปี 2555 ที่ขยายตัวกว่า
ร้อยละ 40 เทียบกับมูลค่าส่งออกของไทยโดยรวมที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 6 จากผลพวงของตลาดหลัก โดยเฉพาะ
สหรัฐฯ และยุโรป ที่อยู่ในภาวะซบเซาจากวิกฤตเศรษฐกิจและการเงินโลก ทั้งนี้ บรูไนเป็นตลาดการค้าที่น่าสนใจจาก
ปัจจัยต่างๆ ดังนี้

         ประชากรมีกำลังซื้อสูง กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund : IMF) ประมาณ
การรายได้ต่อหัวของบรูไนปี 2555 สูงถึง 38,801 ดอลลาร์สหรัฐ สูงเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ และ
สูงกว่ารายได้ต่อหัวของไทยเกือบ 6 เท่า ชาวบรูไนจึงนิยมสินค้าแบรนด์เนมและสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีราคาสูง รวมถึง
สินค้าแฟชั่นและทันสมัยแบบตะวันตก นอกจากนี้ ชาวบรูไนยังให้ความสำคัญมากกับคุณภาพสินค้า และประโยชน์
ใช้สอยซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน

 
  ประมาณการรายได้ต่อหัวของประชากรอาเซียน ปี 2555  
  ที่มา : IMF  
 

         มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ บรูไนมีรายได้หลักจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตสินค้า
ที่ทั่วโลกจำเป็นต้องใช้ นอกจากนี้ รัฐบาลยังเร่งปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจเพื่อสนับสนุนการเติบโตของภาค
เศรษฐกิจที่มิใช่น้ำมัน อาทิ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อุตสาหกรรมอาหาร ยาและเภสัชกรรม และเทคโนโลยี
สารสนเทศ รวมทั้งเร่งดำเนินนโยบายส่งเสริมการลงทุนด้วยการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ตั้งแต่ปี 2545 เพื่อดึงดูด
การลงทุนจากต่างประเทศและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจแก่บรูไนในระยะยาว

         การก้าวสู่ AEC ในปี 2558 ผู้ส่งออกสามารถใช้สิทธิประโยชน์จากการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ซึ่งจะช่วยลดภาระต้นทุนและอุปสรรคทางการค้าให้แก่ผู้ส่งออกไทย
ในการส่งสินค้าไปยังบรูไน ทั้งนี้ ปัจจุบันอัตราภาษีนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่ของบรูไนอยู่ในระดับต่ำ คือ ร้อยละ 0-5
ขณะที่ AEC จะช่วยให้อัตราภาษีนำเข้าสินค้าทั้งหมดลดลงเหลือร้อยละ 0 ภายในปี 2558 ยกเว้นสินค้าอ่อนไหว
(Sensitive List) 2 รายการ คือ ชา และกาแฟ ซึ่งจะเก็บภาษีนำเข้าไม่เกินร้อยละ 5

 
  สำหรับสินค้าไทยที่มีโอกาสขยายตลาดในบรูไน ได้แก่  
           อาหารและผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอาหารแปรรูปและอาหารพร้อมรับประทาน อาทิ
อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ผักกระป๋องและแปรรูป และ
ไอศกรีม เป็นต้น เนื่องจากการผลิตของบรูไนยังไม่เพียงพอ ทำให้บรูไนต้องพึ่งพาการ
นำเข้าสินค้าอาหารจำนวนมากจากต่างประเทศ ประกอบกับพฤติกรรมและรสนิยมการบริโภค
ของชาวบรูไนที่เปลี่ยนแปลงไป กล่าวคือปัจจุบันชาวบรูไนมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบและต้องการ
ความสะดวกสบายมากขึ้น ขณะที่สินค้าอาหารของไทยมีความได้เปรียบด้านคุณภาพและ
มาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับจากชาวบรูไน ทั้งนี้ สินค้าอาหารและผลิตภัณฑ์ที่วาง
จำหน่ายในบรูไนควรได้รับการรับรองตราสัญลักษณ์ฮาลาลจาก Ministry of Religious Affairs ของบรูไนเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับในตลาด ซึ่งประชากรเกือบ
 
 
ตราสัญลักษณ์
ฮาลาลของบรูไน
 
  ร้อยละ 70 เป็นชาวมุสลิม รวมถึงควรแสดงเครื่องหมายฮาลาลให้เห็นชัดเจนบนฉลากสินค้า  
 

         สินค้าอุปโภค อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และอัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออก
สำคัญของไทยไปบรูไน ขณะที่ความต้องการสินค้าดังกล่าวขยายตัวต่อเนื่องตามรายได้ที่เพิ่มขึ้นของชาวบรูไน
นอกจากนี้ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง และเคหะสิ่งทอ ก็มีแนวโน้มเติบโตตามจำนวน
ที่อยู่อาศัยในบรูไนที่เพิ่มขึ้น

         วัสดุก่อสร้าง อาทิ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สายไฟและสายเคเบิล ปูนซีเมนต์ และแร่ยิปซัม เนื่องจาก
รัฐบาลบรูไนมีโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานหลายโครงการ รวมถึงโครงการพัฒนาพื้นที่เขตเมือง
นอกจากนี้ ยังมีการก่อสร้างที่พักอาศัยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

         อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่สนใจขยายตลาดไปบรูไนควรศึกษากฎระเบียบการนำเข้าสินค้า รวมถึงพฤติกรรม
การบริโภคของชาวบรูไน เพื่อให้การส่งออกไปบรูไนเป็นไปอย่างราบรื่น เนื่องจากบรูไนมีการดำเนินมาตรการที่มิใช่
ภาษี อาทิ การควบคุมการนำเข้าสินค้าบางประเภท เช่น ข้าว และน้ำตาลทราย เป็นต้น ขณะที่อาหารประเภทเนื้อสัตว์
เช่น เนื้อไก่ เนื้อวัว ผู้นำเข้าจะต้องขออนุญาตก่อนนำเข้าและต้องได้รับการรับรองเครื่องหมายฮาลาล ทั้งนี้
ผู้ประกอบการสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎระเบียบและอัตราภาษีนำเข้าสินค้าของบรูไนได้ที่เว็บไซต์
ของกรมศุลกากรบรูไน (Royal Customs & Excise Department) คือ http://www.mof.gov.bn/English/RCE/
Pages/default.aspx

 
  Disclaimer : ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไป
เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่
รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด