นั่งรถไฟทัวร์อาเซียน    
            เป็นที่ทราบกันดีว่า การขนส่งทางระบบรางหรือรถไฟเป็นการขนส่งที่มีต้นทุนค่อนข้างต่ำและปลอดภัย ทำให้
ประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ที่มีเส้นทางรถไฟครอบคลุมทั่วประเทศ นิยมขนส่งทั้งผู้โดยสารและสินค้าทางรถไฟ
เป็นหลัก สำหรับประเทศไทยแม้มีเส้นทางรถไฟยาวถึง 4,041 กิโลเมตร แต่ส่วนใหญ่เป็นรางเดี่ยวและค่อนข้าง
ทรุดโทรมตามกาลเวลา ส่งผลให้การขนส่งต้องใช้ระยะเวลานานกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่ายินดีที่ภาครัฐ
ให้ความสำคัญและเตรียมยกระดับระบบขนส่งทางรางครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการพัฒนารถไฟความเร็วสูงและรถไฟ
รางคู่ เพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ พร้อมรับมือกับการเปิดเสรี
ภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) “เก็บตกจากต่างแดน” ฉบับนี้จึงขอพาท่านผู้อ่านไปสำรวจเส้นทางรถไฟ
ในอาเซียน ซึ่งมีระยะทางถึง 12,600 กิโลเมตร เพื่อให้ทราบข้อมูลและสถานะการขนส่งทางระบบรางของประเทศ
เพื่อนบ้านสำคัญ ตลอดจนมองเห็นภาพรวมการเชื่อมโยงของเส้นทางรถไฟในภูมิภาคที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปี
ข้างหน้า
 
  เปรียบเทียบต้นทุนขนส่งในระบบต่างๆ  
  ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม  
  เส้นทางรถไฟในเอเชีย  
  ที่มา : UNESCAP  
  เส้นทางรถไฟในมาเลเซียและสิงคโปร์
          มาเลเซียมีเส้นทางรถไฟยาว 1,699 กิโลเมตร แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1) เส้นทางในคาบสมุทรมลายู ซึ่ง
แบ่งย่อยออกเป็นสายชายฝั่งทะเลตะวันตก เริ่มต้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซียที่ด่านปาดังเบซาร์ สู่กรุงกัวลาลัมเปอร์
และเมืองยะโฮร์บารู ก่อนจะไปสิ้นสุดที่ Woodland Train Checkpoint สถานีรถไฟเพียงแห่งเดียวของสิงคโปร์
ขณะที่สายชายฝั่งทะเลตะวันออก เริ่มต้นที่เมืองตุมปัต (Tumpat) ไปจนถึงเมืองเกมาส (Gemas) และ 2) เส้นทาง
ในรัฐซาบะห์ (Sabah)
เชื่อมโยงระหว่างเมืองตันจุงอารู (Tanjung Aru) กับเมืองเตนอม (Tenom) ทั้งนี้ เส้นทาง
รถไฟในส่วนที่เชื่อมต่อกันระหว่างไทยกับมาเลเซียนับเป็นช่องทางการค้าและการขนส่งที่สำคัญ สินค้าที่ขนส่ง
ส่วนใหญ่เป็นยางพาราและสินค้าอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ รัฐบาลมาเลเซียและสิงคโปร์มีแผนลงทุนรถไฟความเร็ว
สูงเชื่อมโยงกรุงกัวลาลัมเปอร์กับใจกลางประเทศสิงคโปร์ มูลค่าลงทุนไม่ต่ำกว่า 8 พันล้านริงกิต คาดว่าจะแล้วเสร็จ
ในปี 2563 ซึ่งจะลดระยะเวลาการเดินทางด้วยรถไฟเหลือเพียง 1.5 ชั่วโมง จากเดิมไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง
 
  เส้นทางรถไฟความเร็วสูงระหว่างมาเลเซียกับสิงคโปร์  
  ที่มา : SIEMENS  
  เส้นทางรถไฟในอินโดนีเซีย
          แม้อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ประกอบด้วยหมู่เกาะจำนวนมาก แต่ก็มีเส้นทางรถไฟยาวถึง 3,000 กิโลเมตร
เส้นทางหลักส่วนใหญ่อยู่บนเกาะชวา ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงจาการ์ตา แบ่งเป็น 2 สายเชื่อมโยงและครอบคลุมเกือบ
ทั้งเกาะ ตั้งแต่เมืองเมรัก (Merak) ทางฝั่งตะวันตกไปจนถึงเมืองบันยูวาหงิ (Banyuwangi) ทางฝั่งตะวันออก ขณะที่
เส้นทางบนเกาะสุมาตรา ซึ่งเป็นเกาะขนาดใหญ่และสำคัญทางตอนเหนือของอินโดนีเซีย ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางเก่า
ที่ก่อสร้างขึ้นโดยชาวดัชต์ในสมัยอาณานิคม ทั้งนี้ สินค้าที่นิยมขนส่งทางรถไฟของอินโดนีเซียส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม
สินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ การขนส่งน้ำมันระหว่างโรงกลั่นกับท่าเรือบนเกาะชวา การขนส่งทรายควอตซ์บริเวณตอนกลาง
ของเกาะชวา การขนส่งถ่านหินบริเวณตอนใต้ของเกาะสุมาตรา การขนส่งปูนซีเมนต์จากโรงงานในเมืองอินดารัง
(Indarung) ทางตะวันตกของเกาะสุมาตรา การขนส่งปาล์มน้ำมันและยางพาราบริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา
ขณะที่การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ส่วนใหญ่จะอยู่บนเส้นทางกรุงจาการ์ตากับเมืองสุราบายา
 
  เส้นทางรถไฟสายสำคัญบนเกาะชวา  
  ที่มา : PT. Kereta Api Indonesia  
  เส้นทางรถไฟใน CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว พม่า และเวียดนาม)  
  เส้นทางรถไฟของเวียดนาม  
  ที่มา : Vietnam Railways  
            การขนส่งด้วยรถไฟในกลุ่มประเทศ CLMV ยัง
ไม่เป็นที่นิยมมากนัก เนื่องจากภูมิประเทศเป็นภูเขาและ
ไม่เอื้ออำนวยต่อการสร้างเส้นทางรถไฟ ส่วนใหญ่ใช้
ขนส่งผู้โดยสารเป็นหลัก ยกเว้นเวียดนามที่มีเส้นทาง
รถไฟยาว 2,557 กิโลเมตร เชื่อมโยงตั้งแต่กรุงฮานอย
ทางตอนเหนือของประเทศ ผ่านเมืองดานังทางตอน
กลาง ไปจนถึงนครโฮจิมินห์ทางตอนใต้ นอกจากนี้
เส้นทางจากกรุงฮานอยไปตอนเหนือของประเทศยัง
แบ่งออกเป็น 3 สาย ได้แก่ 1) กรุงฮานอย-ท่าเรือ
ไฮฟง 2) กรุงฮานอย-เมืองลาวไค (Lao Cai)
เพื่อ
เชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟของจีนไปยังเมืองคุนหมิง
แต่ปัจจุบันเส้นทางเมืองลาวไค-เมืองคุนหมิงยังไม่
สามารถเปิดให้บริการได้ และ 3) กรุงฮานอย- ด่าน
ดองดัง (Dong Dang)
เพื่อเชื่อมต่อกับเส้นทาง
รถไฟของจีนไปยังเมืองหนานหนิง ซึ่งปัจจุบันเปิดให้
บริการแล้ว สำหรับตอนใต้ของเวียดนามมีจุดเชื่อมต่อ
สำคัญระหว่างนครโฮจิมินห์กับกรุงพนมเปญของกัมพูชา
ระยะทาง 126 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ
ก่อสร้าง ซึ่งจุดนี้นับเป็น Missing Link สำคัญของ
เส้นทางรถไฟสายคุนหมิง-สิงคโปร์ สำหรับเส้นทาง
รถไฟในพม่า ก่อสร้างตั้งแต่สมัยอาณานิคมอังกฤษ
โดยมี 2 เส้นทางหลัก ได้แก่ เมืองย่างกุ้ง-กรุงเนปิดอว์-
เมืองมัณฑะเลย์ และเมืองย่างกุ้ง-เมืองพุกาม-เมือง
มัณฑะเลย์ ขณะที่เส้นทางรถไฟในกัมพูชา ปัจจุบัน
เปิดให้บริการรวมระยะทาง 256 กิโลเมตร ส่วน สปป.
ลาว
เปิดให้บริการเพียง 3.5 กิโลเมตร จากชายแดน
ไทยบริเวณจังหวัดหนองคาย-สถานีท่านาแล้งใน
นครหลวงเวียงจันทน์
 
 
เส้นทางรถไฟสายคุนหมิง-สิงคโปร์
 
  แนวเส้นทางรถไฟสายคุนหมิง-สิงคโปร์  
  หมายเหตุ : ML = Missing Link    
  ที่มา : ASEAN Secretariat  
            การขนส่งระบบรางในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้เริ่มมีแนวโน้มขยายตัวตามการค้าการลงทุนที่
จะเชื่อมโยงกันมากขึ้นภายใต้ AEC โดยที่ผ่านมามี
แนวคิดเชื่อมโยงระบบรางของภูมิภาคเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้กับตอนใต้ของจีนในเส้นทางสายคุนหมิง-
สิงคโปร์ ระยะทางราว 4,000 กิโลเมตร แบ่งเป็น 2
เส้นทาง ได้แก่
          1) เมืองคุนหมิง (จีน)-นครหลวงเวียงจันทน์
(สปป.ลาว)-กรุงเทพฯ (ไทย)-กรุงกัวลาลัมเปอร์
(มาเลเซีย)-สิงคโปร์
          2) เมืองคุนหมิง (จีน)-กรุงฮานอย (เวียดนาม)- นครโฮจิมินห์ (เวียดนาม)-กรุงพนมเปญ (กัมพูชา)-
กรุงเทพฯ (ไทย)-กรุงกัวลาลัมเปอร์ (มาเลเซีย)- สิงคโปร์
          อย่างไรก็ตาม ทั้งสองเส้นทางยังมี Missing
Link อยู่หลายจุดและหลายเส้นทาง อีกทั้งในบางเส้น
ทางจะปรับปรุงเป็นเส้นทางรถไฟความเร็วสูง จึงคาดว่า
ต้องใช้ระยะเวลาอีกพอสมควรในการพัฒนา แต่หาก
เส้นทางรถไฟสายนี้สามารถเปิดดำเนินการได้ จะลด
ระยะเวลาเดินทางในภูมิภาคได้อีกมาก ทั้งนี้ เป็นที่
คาดว่าหากสามารถพัฒนาไปสู่เส้นทางรถไฟความ
เร็วสูงทั้งระบบจะช่วยลดระยะเวลาเดินทางจากคุนหมิง-
สิงคโปร์เหลือเพียง 10 ชั่วโมง จากปัจจุบันใช้ระยะ
เวลาไม่ต่ำกว่า 72 ชั่วโมงในการเดินทางด้วยรถไฟจาก
สิงคโปร์ไปจนถึงนครหลวงเวียงจันทน์
 
            การพัฒนาระบบขนส่งทางรางในภูมิภาคอาเซียนนับเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะสร้างความสำเร็จในการ
จัดตั้ง AEC ด้วยการเป็นเครื่องมือเชื่อมโยงเศรษฐกิจ สังคม และประชากรในภูมิภาคเข้าด้วยกัน ดังเช่นที่เกิดขึ้นใน
สหภาพยุโรปหรือ EU ทุกท่านจึงควรติดตามความคืบหน้าและเตรียมความพร้อมเพื่อรับโอกาสใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นหลัง
โครงการพัฒนาระบบรางในภูมิภาคแล้วเสร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
 
  เส้นทางรถไฟสาย Trans-Asian  
  ที่มา : สหประชาชาติ  
  Disclaimer : ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไป
เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่
รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด