ธุรกิจค้าปลีกกัมพูชาช่วงขาขึ้น...
โอกาสของผู้ประกอบการไทย

 
   
           ธุรกิจค้าปลีกในกัมพูชามีศักยภาพในการเติบโตตามเศรษฐกิจที่ขยายตัวสูงเฉลี่ยราวร้อยละ 8 ต่อปีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่องเฉลี่ยร้อยละ 7.5 ต่อปีในช่วงปี 2557-2561 ส่งผลให้ความเป็นเมือง
ขยายตัวอย่างรวดเร็วและภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวดีขึ้น รวมทั้งกำลังซื้อของชาวกัมพูชาที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
มีส่วนสำคัญในการเกื้อหนุนการเติบโตของธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) นับเป็น
โอกาสที่น่าสนใจของผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปลงทุนและขยายช่องทางการค้าสินค้าในกัมพูชา สำหรับข้อมูล
ธุรกิจค้าปลีกในกัมพูชาที่น่าสนใจ มีดังนี้
         ตลาดค้าปลีกในกัมพูชายังเป็นรูปแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) ตลาดสด (Wet Market) และ
ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมในลักษณะร้านขายของชำเป็นรูปแบบการค้าปลีกที่ยังคงได้รับความนิยมมากที่สุดในกัมพูชา
เนื่องจากปัจจุบันชาวกัมพูชาราวร้อยละ 70 ของประชากรทั้งประเทศประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรม ซึ่งมีกำลัง
ซื้อไม่สูงนัก จึงนิยมจับจ่ายซื้อสินค้าในตลาดสดและร้านขายของชำใกล้ชุมชนที่พักอาศัย ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่าย
อาหารสดทั้งผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ ไปจนถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ตลาดสด
บางแห่งยังจำหน่ายเสื้อผ้า เครื่องประดับ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ราคาไม่สูงนัก รวมทั้งเป็นแหล่งรวมร้านอาหารในย่าน
ชุมชุนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของความเป็นเมือง รวมถึงแรงงานวัยหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่นิยมย้ายเข้ามา
ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมในเขตเมืองแทนการทำงานในภาคเกษตรกรรมมากขึ้น ทำให้ตลาดสดและร้านปลีก
แบบดั้งเดิมมีแนวโน้มได้รับความนิยมลดลง
         ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่มีแนวโน้มเติบโตเป็นลำดับ The Economist Intelligent Unit (EIU) คาดว่า
ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในกัมพูชามีแนวโน้มเติบโตตามเศรษฐกิจและกำลังซื้อของชาวกัมพูชาที่เพิ่มขึ้น ขณะที่
ความเป็นเมืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา ซึ่งเป็นศูนย์กลางความ
เจริญและมีอาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม และโรงแรม ก่อสร้างขึ้นใหม่เป็นจำนวนมาก นับว่า
มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการขยายตัวของร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ซึ่งมีรูปแบบการให้บริการที่สอดรับกับพฤติกรรม
ผู้บริโภคในเขตเมืองที่ต้องการความสะอาด สะดวก และทันสมัย โดยเฉพาะศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็น
ศูนย์รวมแหล่งบันเทิงครบวงจร อาทิ โรงภาพยนตร์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารแฟรนไชส์จากต่างประเทศ ทำให้
ชาวกัมพูชาที่พักอาศัยอยู่ในย่านชุมชนเมืองนิยมจับจ่ายสินค้าในร้านค้าปลีกสมัยใหม่มากขึ้น และดึงดูดนักลงทุน
ต่างชาติให้เริ่มเข้ามาลงทุนในโครงการก่อสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในกรุงพนมเปญ อาทิ โครงการ Aeon Mall
ศูนย์การค้าบนพื้นที่ 68,000 ตารางเมตรของกลุ่มทุนจากญี่ปุ่น ซึ่งจะเปิดให้บริการในช่วงกลางปี 2557 และ
Parkson City Centre ศูนย์การค้าบนพื้นที่ 70,000 ตารางเมตรของกลุ่มทุนจากมาเลเซีย ซึ่งมีแผนจะเปิดให้บริการ
ในช่วงต้นปี 2558
         ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่กระจุกตัวอยู่ในกรุงพนมเปญ ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในกัมพูชายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
โดยร้านค้าปลีกสมัยใหม่ทั้งมินิมาร์ท ซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่ในกรุงพนมเปญ
เนื่องจากเป็นศูนย์รวมของประชากรที่มีกำลังซื้อสูงและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้กรุงพนมเปญเป็นทำเลที่น่าสนใจ
ลำดับแรกในการลงทุนขยายธุรกิจร้านค้าปลีกสมัยใหม่ โดยปัจจุบัน Sorya Shopping Center เป็นศูนย์การค้าที่
ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งจากชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่เกือบเต็มตลอดปี
เนื่องจากเป็นศูนย์รวมแหล่งบันเทิงครบวงจร

         โอกาสของผู้ประกอบการไทย
         โอกาสลงทุนร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ผลสำรวจของ National Institute of Statistics ของกัมพูชาพบว่า
ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกกว่าร้อยละ 90 ของจำนวนผู้ประกอบการทั้งหมดเป็นร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่มีจำนวน
แรงงานไม่เกิน 3 คน และดำเนินธุรกิจในลักษณะธุรกิจครอบครัว ทำให้การบริการยังไม่ได้มาตรฐานมากนัก โอกาส
จึงยังเปิดกว้างให้ผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหม่ๆ รวมถึงผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปดำเนินธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่
ทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างดิสเคาท์สโตร์ และมินิมาร์ท โดยในเบื้องต้นผู้ประกอบการควรพิจารณาเลือกทำเลที่ตั้งของ
ร้านค้าปลีกในกรุงพนมเปญ เนื่องจากเป็นเขตชุมชนเมืองที่ประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นและผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง
ขณะที่เมืองท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ อย่างเมืองเสียมราฐก็เป็นทำเลที่น่าสนใจเช่นกัน เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ
มาเยือนกว่า 2.2 ล้านคนต่อปีและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ที่ขยายตัวยังเป็น
โอกาสขยายตลาดสินค้าไทยทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าแฟชั่น เนื่องจากชาวกัมพูชานิยมและให้การยอมรับในคุณภาพของสินค้าไทยมากกว่า
สินค้าจีน อีกทั้งกลุ่มชาวกัมพูชาที่มีฐานะดีมักชอบเดินศูนย์การค้าขนาดใหญ่เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของ
เทรนด์สินค้าใหม่ๆ ทำให้ศูนย์การค้าเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่สำคัญในการเจาะตลาดผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าว โดย
ผู้ส่งออกสินค้าไทยสามารถใช้พื้นที่ในศูนย์การค้าจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์สินค้า
         โอกาสขยายธุรกิจแฟรนไชส์ไทย โดยเฉพาะธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ร้านอาหารจานด่วน
ร้านกาแฟและเบเกอรี เป็นต้น รวมทั้งธุรกิจความงาม เนื่องจากรูปแบบการบริโภคของชาวกัมพูชาคล้ายคลึงกับ
ของไทย ประกอบกับชาวกัมพูชาที่มีฐานะดีและมีกำลังซื้อมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก จึงมีความสนใจในสินค้าและบริการ
ที่มีคุณภาพ รวมทั้งใส่ใจกับสุขภาพและความงามมากขึ้น นอกจากนี้ การขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่
โดยเฉพาะศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่กำลังจะเปิดให้บริการยังช่วยเพิ่มพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Retail Space) เนื่องจาก
เป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงทั้งชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงเป็นโอกาส
ที่น่าสนใจในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ไทย โดยเฉพาะในกรุงพนมเปญ ทั้งนี้ CB Richard Ellis (CBRE) บริษัท
ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก รายงานอัตราค่าเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ในกรุงพนมเปญในปี 2556 อยู่ที่
20-32 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางเมตร ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์ไทยและแฟรนไชส์ต่างประเทศเล็งเห็นโอกาสและ
เข้ามาทำตลาดในกัมพูชาบ้างแล้ว อาทิ KFC, Swensen’s และ Berger King ล่าสุด Hard Rock Cafe เตรียมเปิด
สาขาแรกที่เมืองเสียมราฐในปี 2557 ขณะที่แฟรนไชส์ไทยอย่าง Black Canyon, The Coffee Maker, Moly Care (ธุรกิจบริการล้างและดูแลรักษารถยนต์) และวุฒิศักดิ์ คลินิก ต่างขยายแฟรนไชส์สู่ตลาดกัมพูชา สะท้อนโอกาส
ในการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ในกัมพูชาได้เป็นอย่างดี
         ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าไปลงทุนร้านค้าปลีกสมัยใหม่และธุรกิจแฟรนไชส์ในกัมพูชาควรศึกษาข้อมูลเชิงลึก
เพื่อสร้างความเข้าใจกับตลาดผู้บริโภคในกัมพูชา อีกทั้งการมีหุ้นส่วนธุรกิจที่เป็นคนท้องถิ่นที่มีประสบการณ์และ
เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคท้องถิ่นเป็นอย่างดีจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น นอกจากนี้
ผู้ประกอบการควรจดสิทธิบัตรรูปแบบแฟรนไชส์เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ รวมทั้งควรตระหนักและเตรียมรับมือ
กับข้อจำกัดในด้านต่างๆ อาทิ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนยังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร ซึ่งอาจกระทบต่อ
คุณภาพของสินค้าในระหว่างการขนส่งได้
 
  Disclaimer : ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไป
เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่
รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด